วันนี้ (13 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. เรือรบของกองทัพเรือ ได้ควบคุมเรือเวียดนาม หลังเข้ามาลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทย ประมาณ 30-40 ไมล์ทะเล ด้านทิศใต้ของเกาะกูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และสามารถจับกุมเรือประมงเวียดนามได้ 2 ลำ พร้อมลูกเรือ 28 คน เมื่อวานที่ผ่านมา เข้ามาจอดเทียบท่าที่ท่าเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี ผบ.ทรภ.1 นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบพบว่าเรือประมง 2 ลำ ของเวียดนาม ที่จับกุมได้ในครั้งนี้ เป็นเรือประมงอวนล้อม 1 ลำ ชื่อ ฮ๊วดดุย (NHAT DUY) ตัวเรือสีขาวคาดเทา หมายเลข CM 99177 TH ยาว 21.7 เมตร กว้าง 6.1 เมตร ระวางขับน้ำ 82.2 ตันกร๊อส เป็นเรืออวนล้อมตาถี่ มีลูกเรือ 21 คน มีเด็กอายุ 10 ขวบ 2 คน ส่วนอีก 1 ลำ เป็นเรือไดหมึก มีลูกเรือ 7 คน เครื่องยนต์เสียไม่สามารถนำเข้าเทียบท่าได้ มี น.ท.ชำนาญ จันทร์สุวรรณ ผบ.เรือหลวงรัตนโกสินทร์ เรือหลวงท้ายเหมือง และเรือตรวจการณ์ 217 ควบคุมอยู่บริเวณร่องน้ำสัตหีบ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1 ไมล์ทะเล
พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 (ศรชล.เขต 1) กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น เรือประมงเวียดนามรุกล้ำเข้ามาจับปลาในเขตน่านน้ำไทยครั้งนี้ เนื่องจากน่านน้ำเวียดนาม มีคลื่นลมค่อนข้างแรง ประกอบกับน่านน้ำไทยคลื่นลมสงบและมีทรัพยากรสัตว์น้ำโดยเฉพาะปลาและงูทะเลเป็นจำนวนมาก จึงได้เข้ามาลักลอบทำการประมงอยู่ใน 3 พื้นที่ของประเทศไทย ได้แก่ พื้นที่ด้าน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกาะจวง จ.ชลบุรี และด้านทิศใต้ของเกาะกูด จ.ตราด หลังจากดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นแล้ว จะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ถือเป็นความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม (IUU FISHING) อย่างเข้มข้น เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาติ และเพื่อแก้ไขใบเหลืองที่สหภาพยุโรปกำหนดให้ประเทศไทยในการจะไม่รับซื้อสินค้าประมงของไทย หากไม่ดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามกฎที่สหภาพยุโรป กำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เพื่อปลดใบเหลืองนี้ให้ได้ ซึ่ง พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ที่ได้เน้นย้ำสั่งการมาเป็นพิเศษอีกด้วย
พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 (ศรชล.เขต 1) กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น เรือประมงเวียดนามรุกล้ำเข้ามาจับปลาในเขตน่านน้ำไทยครั้งนี้ เนื่องจากน่านน้ำเวียดนาม มีคลื่นลมค่อนข้างแรง ประกอบกับน่านน้ำไทยคลื่นลมสงบและมีทรัพยากรสัตว์น้ำโดยเฉพาะปลาและงูทะเลเป็นจำนวนมาก จึงได้เข้ามาลักลอบทำการประมงอยู่ใน 3 พื้นที่ของประเทศไทย ได้แก่ พื้นที่ด้าน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกาะจวง จ.ชลบุรี และด้านทิศใต้ของเกาะกูด จ.ตราด หลังจากดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นแล้ว จะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ถือเป็นความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม (IUU FISHING) อย่างเข้มข้น เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาติ และเพื่อแก้ไขใบเหลืองที่สหภาพยุโรปกำหนดให้ประเทศไทยในการจะไม่รับซื้อสินค้าประมงของไทย หากไม่ดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามกฎที่สหภาพยุโรป กำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เพื่อปลดใบเหลืองนี้ให้ได้ ซึ่ง พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ที่ได้เน้นย้ำสั่งการมาเป็นพิเศษอีกด้วย
