ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทัพเรือภาค 1 ส่งเครื่องบิน พร้อมเรือรบออกปิดล้อม และจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ที่ลักลอบเข้ามาทำประมงในเขตน่านน้ำไทย บริเวณเกาะกูด จ.ตราด ก่อนควบคุมเรือประมง 2 ลำ และลูกเรืออีก 10 คน เข้าฝั่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ (12 ธ.ค.) พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 1 (ศรชล.เขต 1) ได้สั่งการให้หมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 1 (มวบ.ทรภ.1) ซึ่งมี น.ท.ศานิต จงรักษ์ นักบินที่ 1 และ น.ท.ปกรณ์ แก้วช่วง ผบ.ฝูงบิน 101 ควบคุมการปฏิบัตินำเครื่องบินดอร์เนียร์ หมายเลข 1112 ขึ้นบินจากสนานบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ทำการลาดตระเวน และเข้าจับกุมเรือประมงเวียดนาม
หลังตรวจพบเรือประมงเวียดนามกว่า 10 ลำ กระจายตัวลักลอบทำประมงในน่านน้ำไทย ในพิกัด ละติจูด 10 องศา 54 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 102 องศา 14 ลิปดาตะวันออก ห่างทิศใต้เกาะกูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ออกไปประมาณ 50 ไมล์ทะเล
โดยการปฏิบัติงานในส่วนภาคพื้นทะเล มีเรือหลวงรัตนโกสินทร์ เรือหลวงท้ายเหมือง และเรือตรวจการณ์ 217 เข้าปิดล้อมตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ก่อนนำกลังจู่โจมเข้าจับกุมในช่วงฟ้าสาง สามารถควบคุมเรือประมงเวียดนามไว้ได้ 2 ลำ และได้ควบคุมลูกเรือประมาณ 10 คน พร้อมเรือเข้าเทียบยังท่าเทียบเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อส่งพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ดำเนินคดีตามกฎหมาย คาดว่าจะถึงฝั่งในเวลาประมาณ 09.00 น.พรุ่งนี้
น.ท.ปกรณ์ แก้วช่วง ผบ.ฝูงบิน 101 กล่าวว่า จากการบินลาดตระเวนในรัศมี 20 ไมล์ทะเลใช้เวลา 3 ชั่วโมง พบเรือประมงเวียดนามกว่า 10 ลำ กระจายตัวกันลอยลำทำประมง ซึ่งเมื่อรู้ตัวก็ต่างพากันถอนสมอเร่งเครื่องหลบหนีออกจากน่านน้ำ อย่างไรก็ตาม ภารกิจการลาดตระเวนค้นหาจะยังคงดำเนินต่อไปเพื่อป้องปรามไม่ให้เรือประมงเวียดนามรุกล้ำเข้ามาอีก
ด้าน พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า การปราบปรามผู้กระทำความผิดทางทะเลถือเป็นนโยบายหลัก และเป็นความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการร่วมแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายทุกประเภท ให้เป็นไปตามหลัก (IUU FISHING) ในฐานะเป็นศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) และเป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักของศูนย์ประสานงานการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จึงต้องปฏิบัติการอย่างจริงจัง เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติเป็นสำคัญ และเพื่อปลดใบเหลืองจากสหภาพยุโรป