นายมารุต อรรถไกวัลวที กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) คาดว่า กำไรสุทธิงวดปี 58/59 (1 เม.ย.58- 31 มี.ค.59) จะมากกว่า 837 ล้านบาทในงวดปีก่อน แม้คาดว่ารายได้ในปี 58/59 จะทำได้ระดับ 2.6 พันล้านบาท ลดลงจาก 3.07 พันล้านบาทในงวดปีก่อน หลังจากได้ยกเลิกสัญญาการรับสิทธิในการบริหาร และจัดการพื้นที่โฆษณาในโมเดิร์นเทรด เนื่องจากการบริหารจัดการพื้นที่โฆษณาในโมเดิร์นเทรดมีอัตราการทำกำไรต่ำ แต่ในส่วนของกำไรสุทธิปีนี้จะดีขึ้น จากที่มีการควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาที่ 35% จากงวดปีก่อนอยู่ที่ 27.21%
“รายได้ลดลงเล็กน้อยจากการยกเลิกโมเดิร์นเทรดไป แต่สัดส่วนรายได้หลักก็ยังมาจาก BTS ถึง 90% ขณะที่กำไรจะดีกว่าปีก่อนแน่นอน หลังจากที่เราสามารถควบคุมต้นทุนได้ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดูปีก่อนที่เรามีรายจ่ายในเรื่องของค่าเสียหายที่เกิดจากการยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนด จำนวน 215 ล้านบาท และค่าชดเชยเลิกจ้างพนักงาน” นายมารุต กล่าว
นายมารุต กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 260 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายป้ายโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้า BTS รวมไปถึงสำนักงานออฟฟิศ โดยมองว่าการขยายตัวของสถานีรถไฟฟ้า BTS ยังมีช่องทางอีกมาก ซึ่งจะเป็นไปตามการลงทุนของภาครัฐ
นอกจากนี้ ยังจะขยายธุรกิจออกไปนอกเหนือจากสื่อบนรถไฟฟ้า BTS ด้วย โดยล่าสุดบริษัทได้เข้าถือหุ้น 20% ในแอลอีดี แอดวานซ์ เพื่อขยายธุรกิจไปยังสื่อการบินเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันที่ได้รับสิทธิบริหารสื่อ LED 32 จอใน 12 สนามบินของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) และกรมการบินพลเรือน อีกทั้งยังได้บริหารสื่อบนสะพานเทียบเครื่องบิน 57 สะพาน รวมถึงบริหารจัดการเว็บไซด์ของ AOT และเว็บไซต์สนามบินของ AOT ทั้งหมด จากปัจจุบัน VGI เป็นผู้บริหารสื่อโฆษณาบนเครื่องบินของไทยแอร์เอเชีย
ขณะที่สื่อนอกบ้าน (Outdoor) ของ บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ถือว่ามีแนวโน้มผลประกอบการที่ดีอยู่ แม้ว่าภาวะอุตสาหกรรมโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ทรงตัว ตามทิศทางของเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว แต่ยังถือว่ามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นายมารุต กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการธุรกิจสื่อโฆษณาในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อขยายธุรกิจสื่อออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ขณะเดียวกัน ก็อยู่ระหว่างมองหาพันธมิตรเพื่อร่วมกันพัฒนาสื่อโฆษณาบนออนไลน์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของรูปแบบโมเดลธุรกิจได้ภายในปลายปีนี้ และในอนาคตก็จะมีการนำสินค้าของแบรนด์ต่างๆ มาโฆษณาบนสื่อออนไลน์อีกด้วย
“รายได้ลดลงเล็กน้อยจากการยกเลิกโมเดิร์นเทรดไป แต่สัดส่วนรายได้หลักก็ยังมาจาก BTS ถึง 90% ขณะที่กำไรจะดีกว่าปีก่อนแน่นอน หลังจากที่เราสามารถควบคุมต้นทุนได้ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดูปีก่อนที่เรามีรายจ่ายในเรื่องของค่าเสียหายที่เกิดจากการยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนด จำนวน 215 ล้านบาท และค่าชดเชยเลิกจ้างพนักงาน” นายมารุต กล่าว
นายมารุต กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 260 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายป้ายโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้า BTS รวมไปถึงสำนักงานออฟฟิศ โดยมองว่าการขยายตัวของสถานีรถไฟฟ้า BTS ยังมีช่องทางอีกมาก ซึ่งจะเป็นไปตามการลงทุนของภาครัฐ
นอกจากนี้ ยังจะขยายธุรกิจออกไปนอกเหนือจากสื่อบนรถไฟฟ้า BTS ด้วย โดยล่าสุดบริษัทได้เข้าถือหุ้น 20% ในแอลอีดี แอดวานซ์ เพื่อขยายธุรกิจไปยังสื่อการบินเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันที่ได้รับสิทธิบริหารสื่อ LED 32 จอใน 12 สนามบินของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) และกรมการบินพลเรือน อีกทั้งยังได้บริหารสื่อบนสะพานเทียบเครื่องบิน 57 สะพาน รวมถึงบริหารจัดการเว็บไซด์ของ AOT และเว็บไซต์สนามบินของ AOT ทั้งหมด จากปัจจุบัน VGI เป็นผู้บริหารสื่อโฆษณาบนเครื่องบินของไทยแอร์เอเชีย
ขณะที่สื่อนอกบ้าน (Outdoor) ของ บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ถือว่ามีแนวโน้มผลประกอบการที่ดีอยู่ แม้ว่าภาวะอุตสาหกรรมโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ทรงตัว ตามทิศทางของเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว แต่ยังถือว่ามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นายมารุต กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการธุรกิจสื่อโฆษณาในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อขยายธุรกิจสื่อออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ขณะเดียวกัน ก็อยู่ระหว่างมองหาพันธมิตรเพื่อร่วมกันพัฒนาสื่อโฆษณาบนออนไลน์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของรูปแบบโมเดลธุรกิจได้ภายในปลายปีนี้ และในอนาคตก็จะมีการนำสินค้าของแบรนด์ต่างๆ มาโฆษณาบนสื่อออนไลน์อีกด้วย
