“สยามไดกิ้นเซลส์” เดินหน้าเปิดตัวระบบปรับอากาศ “วีอาร์วี” เพื่อการพาณิชย์ และชุดเครื่องปรับอากาศ “มัลติ-สปลิท” เพื่อบ้านและคอนโดมิเนียมพื้นที่จำกัด ตอบโจทย์การประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายบัณฑิต ศรีวัลลภานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ด้วยความเป็นผู้นำในการพัฒนาและจัดจำหน่ายระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ หรือ VRV (Variable Refrigerant Volume) เป็นรายแรกของโลกมายาวนานกว่า 30 ปี “ไดกิ้น” จึงเดินหน้าต่อเนื่องเปิดตัว “วีอาร์วี โฟร์ ฮีท รีโคฟเวอรี่ ฮอท วอเตอร์” ใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกที่มอบทั้งความเย็นสบายทั่วอาคารและนำพลังงานความร้อนที่เสียไปมาผลิตน้ำร้อนเพื่อการอุปโภคบริโภค
ปกติแล้วอาคารและที่พักอาศัยประเภทต่างๆ จะมีระบบปรับอากาศและระบบทำน้ำร้อนแยกกัน ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและมีค่าไฟฟ้าสูงมาก “ไดกิ้น” จึงได้พัฒนาระบบปรับอากาศ “วีอาร์วี โฟร์ ฮีท รีโคฟเวอรี่ ฮอท วอเตอร์” ที่เป็นทั้งระบบปรับอากาศ และระบบทำน้ำร้อนเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โดยผสานเทคโนโลยีการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศเข้ากับระบบทำน้ำร้อนโดยนำพลังงานความร้อนที่ปล่อยจากเครื่องปรับอากาศมาใช้ เนื่องจากระบบทำน้ำร้อนมีความจำเป็นในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆ รวมทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ ร้านค้า โรงแรม โรงพยาบาล และที่พักอาศัย ทั้งยังเป็นระบบที่สิ้นเปลืองพลังงานและค่าใช้จ่ายมาก
สำหรับชุดภายนอก หรือคอนเดนซิ่งหนึ่งชุดของระบบปรับอากาศวีอาร์วีจะสามารถเชื่อมต่อชุดภายใน หรือแฟนคอยล์เครื่องปรับอากาศได้สูงสุดถึง 64 เครื่อง ผสานเทคโนโลยี VRT (Variable Refrigerant Temperature) ที่สามารถปรับอุณหภูมิของน้ำยาตามสภาวะอากาศ จึงช่วยให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบควบคุมส่วนกลางอัจฉริยะ ITM (Intelligent Touch Manager) ที่ช่วยควบคุมและตรวจสอบการทำงานของระบบปรับอากาศวีอาร์วีซึ่งถูกติดตั้งไปทั่วทั้งอาคาให้ผู้ใช้งานควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศได้ตามต้องการ กำหนดอุณหภูมิแต่ละห้อง ตั้งค่าการทำงานรายสัปดาห์ รวมถึงรายงานข้อมูลการใช้พลังงาน และข้อมูลความขัดข้องของระบบได้อย่างแม่นยำ
พร้อมกันนี้ “ไดกิ้น” ยังได้เปิดตัว “มัลติ-สปลิท” ซึ่งเป็นชุดเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ที่ตอบโจทย์ที่อยู่อาศัย ทั้งบ้าน และคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่จำกัดในการติดตั้งคอนเดนซิ่ง หรือชุดภายนอก โดยที่คอนเดนซิ่งเพียง 1 ชุด สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องปรับอากาศ หรือชุดภายในประเภทต่างๆ ได้สูงสุดถึง 5 ชุด จึงช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยจากการต้องติดตั้งคอนเดนซิ่งหลายเครื่อง ทั้งยังสามารถเดินท่อน้ำยายาวสูงสุดได้ถึง 80 เมตร จึงสามารถติดตั้งคอนเดนซิ่งได้ในพื้นที่ต่างๆ ตามต้องการ ช่วยส่งเสริมทัศนียภาพภายนอกบ้านให้สวยงามขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกของระบบปรับอากาศประเภทนี้ที่ใช้สารทำความเย็น R32 ที่ไม่ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศและส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนน้อยกว่าสารทำความเย็น R410A ถึง 3 เท่า ประหยัดพลังงาน และมอบประสิทธิภาพการทำความเย็นมากกว่าสารทำความเย็น R22 ถึง 60% อีกด้วย
“เจ้าของบ้าน หรือผู้พักอาศัยจะมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นหากติดตั้งชุดเครื่องปรับอากาศแบบ มัลติ-สปลิท เพราะใช้คอนเดนซิ่งเพียงเครื่องเดียวสำหรับติดตั้งเครื่องปรับอากาศชุดภายในได้ถึง 5 เครื่อง จากที่เคยเสียพื้นที่ไปกับการติดตั้งชุดภายนอก 1 เครื่องต่อเครื่องปรับอากาศชุดภายใน 1 เครื่อง นอกจากนั้น ยังได้ทัศนียภาพที่ดีของที่พักอาศัยภายนอกที่ไม่ถูกบดบังด้วยชุดภายนอกหลายเครื่องอีกด้วย” นายบัณฑิต กล่าว
“วีอาร์วี” เป็นระบบเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ที่มีรายละเอียดมาก “ไดกิ้น” จึงได้ก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมด้านระบบปรับอากาศ หรือ “ไดกิ้น โซลูชัน พลาซา” เพื่อให้ข้อมูล และสื่อสารความซับซ้อนทางวิศวกรรมผ่านสื่อมัลติมีเดียเพื่อช่วยให้เข้าใจง่าย โดยภายในศูนย์มีการจัดแสดงระบบปรับอากาศ “วีอาร์วี โฟร์” รวมถึง “วีอาร์วี โฟร์ ฮีท รีโคฟเวอรี่ ฮอท วอเตอร์” และ “มัลติ-สปลิท” ไว้อย่างครบถ้วน
นายบัณฑิต กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศวีอาร์วีเป็นผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ หรือ Strategic Product ที่เราให้ความสำคัญมาก และมีสัดส่วนถึง 15% ของผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มของ “ไดกิ้น” ในตลาด ดังนั้น นอกจากการมีศูนย์ “ไดกิ้น โซลูชัน พลาซา” เพื่อให้ข้อมูลและอธิบายการทำงานผ่านสื่อมัลติมีเดียเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจโดยง่ายแล้ว เรายังได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายและบริการระบบ “วีอาร์วี” จำนวน 15 บริษัททั่วประเทศ
“เรายังเป็นบริษัทเครื่องปรับอากาศที่มีบุคลากรทั้งที่ปรึกษาการขาย ช่างเทคนิค วิศวกร และเจ้าหน้าที่บริการที่รองรับลูกค้าในกลุ่มนี้มากที่สุดในวงการจำนวนมากกว่า 200 คน ซึ่งจะให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบระบบ แม้ตอนที่ยังไม่สร้างอาคาร ไปจนถึงการดูแลหลังการขาย”
นายบัณฑิต ศรีวัลลภานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ด้วยความเป็นผู้นำในการพัฒนาและจัดจำหน่ายระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ หรือ VRV (Variable Refrigerant Volume) เป็นรายแรกของโลกมายาวนานกว่า 30 ปี “ไดกิ้น” จึงเดินหน้าต่อเนื่องเปิดตัว “วีอาร์วี โฟร์ ฮีท รีโคฟเวอรี่ ฮอท วอเตอร์” ใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกที่มอบทั้งความเย็นสบายทั่วอาคารและนำพลังงานความร้อนที่เสียไปมาผลิตน้ำร้อนเพื่อการอุปโภคบริโภค
ปกติแล้วอาคารและที่พักอาศัยประเภทต่างๆ จะมีระบบปรับอากาศและระบบทำน้ำร้อนแยกกัน ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและมีค่าไฟฟ้าสูงมาก “ไดกิ้น” จึงได้พัฒนาระบบปรับอากาศ “วีอาร์วี โฟร์ ฮีท รีโคฟเวอรี่ ฮอท วอเตอร์” ที่เป็นทั้งระบบปรับอากาศ และระบบทำน้ำร้อนเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โดยผสานเทคโนโลยีการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศเข้ากับระบบทำน้ำร้อนโดยนำพลังงานความร้อนที่ปล่อยจากเครื่องปรับอากาศมาใช้ เนื่องจากระบบทำน้ำร้อนมีความจำเป็นในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆ รวมทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ ร้านค้า โรงแรม โรงพยาบาล และที่พักอาศัย ทั้งยังเป็นระบบที่สิ้นเปลืองพลังงานและค่าใช้จ่ายมาก
สำหรับชุดภายนอก หรือคอนเดนซิ่งหนึ่งชุดของระบบปรับอากาศวีอาร์วีจะสามารถเชื่อมต่อชุดภายใน หรือแฟนคอยล์เครื่องปรับอากาศได้สูงสุดถึง 64 เครื่อง ผสานเทคโนโลยี VRT (Variable Refrigerant Temperature) ที่สามารถปรับอุณหภูมิของน้ำยาตามสภาวะอากาศ จึงช่วยให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบควบคุมส่วนกลางอัจฉริยะ ITM (Intelligent Touch Manager) ที่ช่วยควบคุมและตรวจสอบการทำงานของระบบปรับอากาศวีอาร์วีซึ่งถูกติดตั้งไปทั่วทั้งอาคาให้ผู้ใช้งานควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศได้ตามต้องการ กำหนดอุณหภูมิแต่ละห้อง ตั้งค่าการทำงานรายสัปดาห์ รวมถึงรายงานข้อมูลการใช้พลังงาน และข้อมูลความขัดข้องของระบบได้อย่างแม่นยำ
พร้อมกันนี้ “ไดกิ้น” ยังได้เปิดตัว “มัลติ-สปลิท” ซึ่งเป็นชุดเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ที่ตอบโจทย์ที่อยู่อาศัย ทั้งบ้าน และคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่จำกัดในการติดตั้งคอนเดนซิ่ง หรือชุดภายนอก โดยที่คอนเดนซิ่งเพียง 1 ชุด สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องปรับอากาศ หรือชุดภายในประเภทต่างๆ ได้สูงสุดถึง 5 ชุด จึงช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยจากการต้องติดตั้งคอนเดนซิ่งหลายเครื่อง ทั้งยังสามารถเดินท่อน้ำยายาวสูงสุดได้ถึง 80 เมตร จึงสามารถติดตั้งคอนเดนซิ่งได้ในพื้นที่ต่างๆ ตามต้องการ ช่วยส่งเสริมทัศนียภาพภายนอกบ้านให้สวยงามขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกของระบบปรับอากาศประเภทนี้ที่ใช้สารทำความเย็น R32 ที่ไม่ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศและส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนน้อยกว่าสารทำความเย็น R410A ถึง 3 เท่า ประหยัดพลังงาน และมอบประสิทธิภาพการทำความเย็นมากกว่าสารทำความเย็น R22 ถึง 60% อีกด้วย
“เจ้าของบ้าน หรือผู้พักอาศัยจะมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นหากติดตั้งชุดเครื่องปรับอากาศแบบ มัลติ-สปลิท เพราะใช้คอนเดนซิ่งเพียงเครื่องเดียวสำหรับติดตั้งเครื่องปรับอากาศชุดภายในได้ถึง 5 เครื่อง จากที่เคยเสียพื้นที่ไปกับการติดตั้งชุดภายนอก 1 เครื่องต่อเครื่องปรับอากาศชุดภายใน 1 เครื่อง นอกจากนั้น ยังได้ทัศนียภาพที่ดีของที่พักอาศัยภายนอกที่ไม่ถูกบดบังด้วยชุดภายนอกหลายเครื่องอีกด้วย” นายบัณฑิต กล่าว
“วีอาร์วี” เป็นระบบเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ที่มีรายละเอียดมาก “ไดกิ้น” จึงได้ก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมด้านระบบปรับอากาศ หรือ “ไดกิ้น โซลูชัน พลาซา” เพื่อให้ข้อมูล และสื่อสารความซับซ้อนทางวิศวกรรมผ่านสื่อมัลติมีเดียเพื่อช่วยให้เข้าใจง่าย โดยภายในศูนย์มีการจัดแสดงระบบปรับอากาศ “วีอาร์วี โฟร์” รวมถึง “วีอาร์วี โฟร์ ฮีท รีโคฟเวอรี่ ฮอท วอเตอร์” และ “มัลติ-สปลิท” ไว้อย่างครบถ้วน
นายบัณฑิต กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศวีอาร์วีเป็นผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ หรือ Strategic Product ที่เราให้ความสำคัญมาก และมีสัดส่วนถึง 15% ของผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มของ “ไดกิ้น” ในตลาด ดังนั้น นอกจากการมีศูนย์ “ไดกิ้น โซลูชัน พลาซา” เพื่อให้ข้อมูลและอธิบายการทำงานผ่านสื่อมัลติมีเดียเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจโดยง่ายแล้ว เรายังได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายและบริการระบบ “วีอาร์วี” จำนวน 15 บริษัททั่วประเทศ
“เรายังเป็นบริษัทเครื่องปรับอากาศที่มีบุคลากรทั้งที่ปรึกษาการขาย ช่างเทคนิค วิศวกร และเจ้าหน้าที่บริการที่รองรับลูกค้าในกลุ่มนี้มากที่สุดในวงการจำนวนมากกว่า 200 คน ซึ่งจะให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบระบบ แม้ตอนที่ยังไม่สร้างอาคาร ไปจนถึงการดูแลหลังการขาย”