CEN คาดกำไรสุทธิปีนี้โตตามรายได้ที่มีแนวโน้มเติบโตได้กว่า 10% จากปีก่อน เล็งเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นใน EMC เพราะมองว่าธุรกิจก่อสร้างยังคงเติบโตได้ อีกทั้งยังเกื้อหนุนต่อธุรกิจที่กลุ่มบริษัทดำเนินการอยู่ด้วย
นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ CEN เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตตามรายได้ที่รวมที่คาดขยายตัวกว่า 10% จาก 2.2 พันล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่เป็น Holding Company ทำให้สัดส่วนรายได้ปีนี้จะมาจากบริษัทลูก ได้แก่ บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC ราว 40% บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RWI ราว 40% และบริษัทลูกอื่นๆ อีก 20%
โดยปัจจุบัน CEN ถือหุ้นใน RWI จำนวน 75% และถือหุ้นใน UWC ราว 57% นอกจากนี้ ยังมีบริษัทลูกอีกหลายบริษัท ได้แก่ บริษัท เอ็นเนอซอล จำกัด เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าและพลังงานความร้อน ซึ่ง CEN ถือหุ้นราว 80% และกำลังเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET),บริษัท ไปป์ ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ถือหุ้น 99.99% ซึ่งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขุดเจาะอุโมงค์ใต้ดิน, บริษัท เอชทีพี แอนด์ เซ็น คอร์เปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้น 51% ประกอบธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งสินค้านวตกรรมไฮเทค และบริษัท ดับเบิ้ลยู เจ ซี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ถือหุ้น 94.25% ซึ่งประกอบธุรกิจงานบริการก่อสร้างงานโลหะ
ทั้งนี้ ปีนี้ UWC กำลังจะมาทั้งรายได้จากเสาส่งแรงสูง และธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะไปซื้อกิจการมาและมาปรับปรุง 2-3 เดือน ก็จะรับรู้รายได้ทันที และ RWI จะดีมากได้ผลิตลวดใช้ในอินฟาสตรักเจอร์ ของภาครัฐ ซึ่ง RWI กำลังเพิ่ม capacity กำลังลงเครื่องจักรใหม่ และเอ็นเนอซอล ผู้ผลิตไฟฟ้าโคเจนให้แก่กลุ่มบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ขนาด 11 เมกะวัตต์ ซึ่งวันนี้เอสซีจีอยากจะให้เราขึ้นโรงไฟฟ้าอีก 3 โรง โรงละ 5 เมกะวัตต์ รวม 15 เมกะวัตต์ เป็นถือว่าดีมากที่เป็นพันธมิตรกับ SCC ที่มีไอเดียดีมากเกี่ยวกับธุรกิจพลังงาน
สำหรับบริษัท เอ็นเนอซอล มีทุนจดทะเบียน 242 ล้านบาท รายได้ปี 57 อยู่ที่ 600-700 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 6-7% ซึ่งทำธุรกิจร่วมกับ SCC มายาวนาน และการที่เป็นพันธมิตรกันเมื่อ SCC โตบริษัทก็โตไปด้วย เป็นการเอาขยะชุมชนมาทำเป็นพลังงาน ซึ่งหากจะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ เอ็นเนอซอล ต้องเพิ่มทุน ตอนนี้รอความชัดเจนซึ่งกำลังคุยกับ SCC อยู่
“CEN เป็นโฮลดิ้ง พอลูกแต่ละบริษัทเติบโตได้ CEN ก็เข้าไปจัดโครงสร้างให้ บริษัทไหนจะโตก็ เข้าตลาด พอเติบโตเองได้ก็ส่งผลดีให้ CEN ในครึ่งหลัง เชื่อว่าบริษัทลูกยังมีศักยภาพ ถ้าลูกโต ลงทุนมากขึ้น รายได้มากขึ้น กำไรมากขึ้น ก็จะส่งมาที่ CEN” นายวุฒิชัย กล่าว
อย่างไรก็ดี ส่วนของ CEN ก็มองหาธุรกิจอื่นๆ ทั้งใน และต่างประเทศ โดยมองในธุรกิจทางด้านนวัตกรรมในตลาดยุโรป ประเภทไฮเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ ขณะเดียวกัน ยังมีบริษัทลูกอีกหลายบริษัทที่รับงานเกี่ยวเนื่องกับอินฟาสตรักเจอร์ เจาะอุโมงค์ ในส่วนของเงินลงทุนบริษัทเตรียมไว้แล้วเป็นเงินจากการใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) หรือจะออกวอร์แรนต์ใหม่ก็ได้
สำหรับ บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC ที่ปัจจุบัน CEN ถือหุ้น 5% ก็มีโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น เพราะมองว่าธุรกิจก่อสร้างยังคงเติบโตได้ อีกทั้งยังเกื้อหนุนต่อธุรกิจที่กลุ่มบริษัทดำเนินการอยู่ด้วย
