นครศรีธรรมราช - สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า สภาเกษตรกรนครศรีธรรมราช ออกแถลงการณ์ร่วมคัดค้านผังเมืองที่เอื้อต่ออุตสาหกรรม ส่งผลกระทบความสงบ และสิ่งแวดล้อม แนะเร่งหาทางออกปรับแก้ให้สอดคล้องต่อวิถีชีวิต และการลงทุน ภาคประชาสังคมบี้ยกเลิกฉบับแก้โดยคน 12 คน
วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการแก้ไขผังเมืองรวมนครศรีธรรมราช เกิดแรงต่อต้าน และคัดค้านจากภาคประชาสังคมในพื้นที่ที่อาจส่งผลกระทบ โดยเฉพาะในอำเภอท่าศาลา อำเภอพระพรหม และอำเภอหัวไทร อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลการเปิดพื้นที่อำเภอท่าศาลา และอำเภอพระพรหม เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ รวมทั้งสถานที่กักเก็บเคมีภัณฑ์อันตราย และพื้นที่อำเภอหัวไทร เป็นพื้นที่สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานความร้อน ทำให้เกิดความกังวลถึงการเข้ามาของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และพื้นที่อำเภอหัวไทร จะเป็นการเอื้อให้โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินกลับเข้ามาอีกครั้ง หลังจากที่มีแนวโน้มไม่สามารถเดินหน้าได้ในจังหวัดกระบี่ และจังหวัดสงขลา
ขณะที่สภาอุตสาหกรรม หอการค้า สภาเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประชุมที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกแถลงการณ์ร่วม โดยนายเจษฎา อังวิทยาธร รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า ขอแสดงจุดยืนสนับสนุนให้มีการแก้ไขผังเมืองรวมนครศรีธรรมราช และขอคัดค้านประเภทอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบภาวะมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และความสงบสุขของประชาชน คือ โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงฟ้านิวเคลียร์ โรงกลั่นปิโตรเลียม โรงงานถลุงหลอมเหล็ก โรงงานผลิตเคมีภัณฑ์ หรือสารเคมี หรือวัสดุเคมีในลำดับที่ 42(1) และ(2) โรงงานดูดทรายที่ใช้สายพานลำเลียงเกินกว่า 50 แรงม้า และขอสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการพัฒนา เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานหมุนเวียน ชีวมวล และชีวภาพ เป็นต้น ใจความแถลงการณ์ฉบับนี้ระบุ
ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เครือข่ายภาคประชาสังคมนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้านจากอำเภอท่าศาลา อำเภอหัวไทร อำเภอชะอวด และอำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้ายื่นหนังสือถึง นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามข้อเรียกก่อนหน้าที่ขอให้ยกเลิกการแก้ไขผังเมืองรวมนครศรีธรรมราช ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่อำเภอท่าศาลา ที่เปิดให้เป็นพื้นที่สำหรับอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ และสถานที่กักเก็บเคมีภัณฑ์อันตราย และอำเภอหัวไทร ที่เปิดให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมพลังงานความร้อน โดยเชื่อว่าเป็นการเอื้อต่อการก่อสร้างไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้มีการยกเลิกการแก้ไขผังเมืองฉบับนี้แล้ว แต่พบว่ายังไม่ความคืบหน้า
นายทรงวุฒิ พัฒแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายรักษ์บ้านเกิดท่าศาลา ระบุว่า ผังเมืองฉบับนี้ถูกแก้โดยคนเพียง 12 คน ซึ่งถือว่าไม่มีความชอบธรรม สอดคล้องต่อหนังสือของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ส่งมาถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ระบุชัดว่า ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณายุติการแก้ไข และขอให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชน
นายสุพร โต๊ะเส็น นายกสมาคมเครือข่ายประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา ระบุว่า แท้จริงแล้วผังเมืองฉบับนี้ควรยกเลิกไปก่อน และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการปรับแก้เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ และความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่
