xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.เผย “แหล่งเบอร์ซาบา” เริ่มผลิตแล้ว ตั้งเป้า 5 ปีผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเท่าตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปตท.สผ.เริ่มผลิตน้ำมันดิบ 2 หมื่นบาร์เรล/วัน ในแหล่งเบอร์ซาบา ที่แอลจีเรีย คาดว่าจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4 นี้ หลังจากนั้นจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 4 หมื่นบาร์เรล/วันในปี 2563 นับเป็นโครงการแรกของบริษัทฯ ที่มีการผลิตปิโตรเลียมในทวีปแอฟริกา ส่วนแหล่งฮาสสิ เบอร์ราเคซ ยังไม่เร่งเดินหน้าสำรวจ และพัฒนาโครงการ รอจังหวะราคาน้ำมันดิบดีขึ้น

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้แหล่งเบอร์ซาบาในโครงการปิโตรเลียมแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี ซึ่งตั้งอยู่บนบกทางทิศตะวันออกของประเทศแอลจีเรียได้เริ่มดำเนินการผลิตน้ำมันดิบแล้วนับเป็นโครงการแรกของบริษัทฯ ที่มีการผลิตปิโตรเลียมในทวีปแอฟริกาจากเดิมโครงการดังกล่าวมีความที่ล่าช้ามานับปี โดยปัจจุบันแหล่งเบอร์ซาบามีกำลังการผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ 2 หมื่นบาร์เรล/วัน คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายน้ำมันดิบครั้งแรกภายในไตรมาส 4 นี้

หลังจากนั้น แหล่งเบอร์ซาบามีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบเป็น 4 หมื่นบาร์เรล/วัน ภายในปี 2563 ซึ่งจะสร้างการเติบโตของ ปตท.สผ.ในอนาคต

ทั้งนี้ PTTEP Algeria Company Limited (PTTEP AG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ปตท. สผ. เป็นผู้ดำเนินการร่วม และถือสัดส่วนร้อยละ 35 ในโครงการแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี โดยมีผู้ร่วมทุนอื่นประกอบด้วย Petrovietnam Exploration Production Corporation Ltd. และ SONATRACH ถือสัดส่วนร้อยละ 40 และ 25 ตามลำดับ โดยทั้ง 3 บริษัทได้ร่วมกันดำเนินการโครงการแอลจีเรีย 433เอ และ 416บี ภายใต้บริษัทร่วมทุน Groupement Bir Seba ซึ่งการเริ่มผลิตน้ำมันดิบจากโครงการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ปตท.สผ. ที่จะพัฒนาขีดความสามารถ และเสริมสร้างการเติบโตของบริษัท

“การผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งเบอร์ซาบา สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และความร่วมมือที่ดีของกลุ่มผู้ร่วมทุน ซึ่งได้แก่ SONATRACH ปตท.สผ. และ Petrovietnam ในการร่วมกันพัฒนาแหล่งน้ำมันดิบจนประสบความสำเร็จ นอกจากนั้น ยังสะท้อนให้เห็นถึงขีดความสามารถของ ปตท.สผ. ในการดำเนินการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียมในทวีปแอฟริกาซึ่งจะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของ ปตท.สผ. และประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย” นายสมพร กล่าว

นอกจากโครงการแอลจีเรีย 433เอ และ 416บี แล้ว ปตท.สผ.ยังมีโครงการ แอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ซึ่ง ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการเองระยะสำรวจในประเทศแอลจีเรีย โดยได้ดำเนินการสำรวจในระยะแรก และระยะที่สองเสร็จสิ้นไปแล้ว พบปริมาณน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติเป็นที่น่าพอใจ และขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจในระยะที่สาม โดยโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ราเคซ ยังไม่มีแผนที่จะเร่งสำรวจและพัฒนาโครงการ สืบเนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตกต่ำ

โดยในปีหน้า ปตท.สผ.ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายการลงทุน (FID) เพียง 2 โครงการ คือ โครงการแหล่งอุบล และโครงการโรวูมา ออฟชอร์ แอเรียวัน ที่โมซัมบิก ส่วนโครงการใหม่อื่นๆ ได้ตัดสินใจเลื่อนการทำ FIDออกไปก่อน เช่น โครงการออยล์แซนด์ ที่แคนาดา โครงการ Cash Maple ที่ออสเตรเลีย และโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ที่แอลจีเรีย

โครงการแหล่งอุบล คาดว่าจะสามารถผลิตน้ำมันดิบได้ 3 หมื่นบาร์เรล/วันได้ในปี 2562 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนงานเดิมที่คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2561 และโครงการโรวูมา ออฟชอร์ แอเรียวันคาดว่าจะเริ่มผลิตก๊าซฯ ได้ในปี 2563

ปัจจุบัน ปตท.สผ. มีการลงทุนในโครงการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม จำนวน 39 โครงการ ใน 11 ประเทศทั่วโลก สำหรับในทวีปแอฟริกา ปตท.สผ. มีโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 4 โครงการ ได้แก่ โครงการแอลจีเรีย 433เอ และ 416บี และโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน และ โครงการเคนยา แอล 5, แอล 7, แอล 11 เอ, แอล 11 บี และแอล 12
กำลังโหลดความคิดเห็น