15 ตุลาคมของทุกปี สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำหนดให้เป็น “วันล้างมือโลก” (Global Hand Washing Day) เพื่อรณรงค์ให้เด็ก เยาวชน และประชากรทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญของการล้างมืออย่างวิธี บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด โดยผลิตภัณฑ์ “โพรเทคส์” จึงร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ และบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด จัดกิจกรรมรณรงค์ “วันล้างมือโลก 2015” และรณรงค์เดือนแห่งการล้างมือต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ภายใต้แนวคิด “มือสะอาด สร้างสุขภาพดี” โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเปิดงาน ณ ลานเซ็นทรัลคอร์ด ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด เมื่อเร็วๆ นี้
มร.รูบิน ยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โพรเทคส์” ตระหนักถึง ปัญหาความเจ็บป่วยและโรคติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ “โพรเทคส์” ในฐานะที่เป็นผู้นำในตลาดสบู่ลดการสะสมของแบคทีเรีย จึงได้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักในการจัดกิจกรรมรณรงค์ “วันล้างมือโลก 2015” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ภายใต้แนวคิด “มือสะอาด สร้างสุขภาพดี” เพื่อรณรงค์ให้เด็กไทยตระหนักว่า การล้างมือให้สะอาดเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดีและเป็นวิธีการง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถเริ่มได้ที่ตัวเราเอง เพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับตนเองและลดการสะสมของเชื้อโรค
ภายในงานมีนิทรรศการให้ความรู้ มุมอ่างล้างมือสาธิตวิธีการล้างมืออย่างถูกวิธี 7 ขั้นตอน พร้อมทดสอบการล้างมือและสาธิตการตรวจสอบเชื้อแบคทีเรียที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และปลูกฝังการสร้างสุขนิสัยที่ดีด้วยการล้างมือด้วยสบู่อย่างสม่ำเสมอให้ติดเป็นนิสัยหลังทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่เอื้อต่อสุขอนามัยที่ดี
นอกจากนี้ “โพรเทคส์” ยังได้จัดโครงการ “มือสร้างศิลป์กับโพรเทคส์” ประกวดส่งผลงานศิลปะสร้างสรรค์จากมือ ในหัวข้อ “มือสะอาด สร้างสุขภาพดี” ชิงทุนการศึกษาจากโพรเทคส์กว่า 45,000 บาท เพื่อกระตุ้นให้น้องๆ นักเรียนชั้นประถม 3-6 เห็นความสำคัญของการล้างมืออีกด้วย
ด้าน รศ.พลตรีหญิง พญ.ฤดีวิไล สามโกเศศ อุปนายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรคติดต่อร้ายแรงเกิดขึ้นตลอดเวลา เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดเมอร์ส รวมถึง โรคปอดบวม โรคมือ เท้า ปาก และโรคท้องร่วง ซึ่ง “มือ” ถือเป็นอวัยวะสำคัญและเป็นตัวนำเชื้อโรคต่างๆเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายที่สุด เพราะในแต่ละวันเราต้องใช้มือหยิบจับสิ่งของมากมาย ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาตอนเช้า ล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ สัมผัสผู้อื่น รวมทั้งหยิบอาหารเข้าปาก แคะจมูก ป้ายตา มือจึงมีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคต่างๆ ทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียอยู่ตลอดเวลา และสามารถนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถกระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นจากการสัมผัสกันโดยตรง หรือสัมผัสผ่านตัวกลาง เช่น ลูกบิดประตู ราวโหนรถเมล์ และราวบันไดเลื่อน
“โรงเรียนถือเป็นสถานที่ที่พบการแพร่ระบาดของโรคติดต่อได้ง่าย เพราะเด็กอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก นั่งเรียนติดกัน ทำกิจกรรมและเล่นคลุกคลีกัน ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายจากเด็กคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้ง่าย ผ่านการสัมผัสมือและอุปกรณ์หรือสิ่งของที่มีเชื้อโรคอยู่ เช่น โต๊ะเขียนหนังสือ เก้าอี้ ราวบันได สนามเด็กเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดน้ำท่วม ฝนตก และอากาศแปรปรวนอย่างในปัจจุบัน ล้วนเป็นปัจจัยที่เอื้ออำนวยให้เชื้อโรคต่างๆ มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเด็กเล็กอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เชื้อโรคก็จะสามารถแพร่กระจายจากเด็กสู่เด็กด้วยการเล่น การสัมผัส การใช้แก้วน้ำและช้อนส้อมร่วมกันได้ โดยโรคติดต่อที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ได้แก่ โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคท้องร่วง โดยเฉพาะโรคมือเท้าปาก ซึ่งพบการแพร่ระบาดมากขึ้นในช่วงหน้าฝนนี้”
การปลูกฝังให้เด็กๆ ล้างมือด้วยสบู่เป็นประจำจนเป็นนิสัยเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ เสียค่าใช้จ่ายน้อย สามารถป้องกันการแพร่ระบาด ช่วยลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อที่สำคัญได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโรคท้องร่วงและโรคปอดบวม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตของเด็กทั่วโลกสูง มีผลการวิจัย พบว่า การล้างมือด้วยน้ำและสบู่อย่างถูกวิธีจะช่วยลดการเสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วงได้ถึงร้อนละ 50 และโรคปอดบวมร้อยละ 25 ทั้งยังมีผลการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ที่ถูกวิธีเพียง 15 วินาที สามารถลดการติดเชื้อได้ถึงร้อยละ 90
หากเราสามารถล้างมือด้วยสบู่อย่างถูกสุขลักษณะสม่ำเสมอและช่วยกันปลูกฝังทุกคนให้เห็นความสำคัญของการล้างมือตั้งแต่ยังเด็กก็จะช่วยสร้างสุขอนามัยที่ดีให้แก่ประชาชนตั้งแต่เด็กๆ เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขอนามัยที่ดี โดยคุณพ่อคุณแม่ ตลอดจนคุณครู ต้องทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กด้วย
ทั้งนี้ การล้างมือที่ถูกวิธีด้วยน้ำและสบู่ มีด้วยกัน 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ฝ่ามือถูกัน 2) ฝ่ามือถูหลังมือและนิ้วถูซอกนิ้ว 3) ฝ่ามือถูฝ่ามือและนิ้วถูซอกนิ้ว 4) หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ 5) ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ 6) ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ และ 7) ถูรอบข้อมือ โดยทุกขั้นตอนทำ 5 ครั้ง สลับกันทั้ง 2 ข้าง
นอกจากนั้นยังต้องล้างมือทันทีเมื่อทำกิจกรรมเหล่านี้เสร็จสิ้น เช่น 1) ก่อนเตรียมหรือรับประทานอาหาร 2) ก่อนและหลังดูแลผู้ป่วย 3) ถอดหรือใส่คอนแทคเลนส์ 4) ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้มือแล้วเอามือเข้าปากหรือ ขยี้ตา 5) หลังเข้าห้องน้ำ 6) หลังหยิบจับสิ่งต่างๆ เช่น เนื้อดิบ ผัก ฯลฯ 7) หลังใช้มือขยี้จมูก ไอ หรือจาม 8) ถือขยะ 9) เปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก หรือผู้ใหญ่ และ10) หลังเล่นกับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น