เอเอฟพี - เกิดเหตุเรือผู้อพยพล่มกลางทะเลเพราะกระแสลมแรงนอกเกาะแห่งหนึ่งของกรีซเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพราะจมน้ำอย่างน้อย 34 คน รวมถึงทารกและเด็ก 15 ราย
การสูญเสียครั้งใหม่นี้มีขึ้นในขณะที่เอเธนส์พยายามปกป้องวิธีที่พวกเขาใช้รับมือกับวิกฤตผู้อพยพในยุโรปที่หนักข้อขึ้นทุกขณะและเรียกร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น
ทารก 4 ราย และเด็ก 11 คนซึ่งเป็นชาย 6 คนหญิง 5 คนอยู่ในหมู่ผู้ที่อยู่บนเรือไม้สภาพทรุดโทรมลำดังกล่าวเมื่อมันล่มนอกเกาะฟาร์มาโคนีซี เหยื่อ 8 รายถูกนักประดาน้ำของหน่วยยามชายฝั่งพบในห้องเก็บสินค้าของเรือ
มีผู้เสียชีวิตถูกพบแล้วทั้งหมด 34 คน ขณะที่อีก 68 คนถูกช่วยชีวิตขึ้นมาจากทะเลและอีก 30 คนสามารถว่ายน้ำไปยังชายหาดของเกาะดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้อ้างจากข้อมูลล่าสุดของหน่วยยามชายฝั่ง
จำนวนที่แท้จริงของผู้ที่อยู่บนเรือลำดังกล่าวยังคงไม่มีใครทราบ แต่สำนักข่าวเอเอ็นเอของกรีซรายงานว่า เรือลำนี้บรรทุกคนมากเกินไปและล่มเพราะกระแสลมแรงในทะเล
กองทัพเรือกรีกกำลังนำศพเหล่านี้ไปที่เมืองโรดขณะที่ผู้รอดชีวิตถูกส่งไปยังเมืองเลรอส เมื่อวานนี้ (13) หน่วยยามชายฝั่งก็ยังคงเดินหน้าค้าหาเด็ก 4 คนที่สูญหายหลังจากเรืออีกลำหนึ่งล่มเมื่อวันเสาร์ (12) นอกเกาะซามอส เกาะของกรีซซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งตุรกี
โศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นภายหลังการเสียชีวิตของเด็กน้อยชาวซีเรียรายหนึ่งที่ร่างไร้ชีวิตของเขาถูกถ่ายขณะนอนเกยบนชายหาดของตุรกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลายเป็นสัญลักษณ์สะเทือนใจที่แสดงให้เห็นสภาพอันเลวร้ายของผู้ลี้ภัยสงคราม
องค์การเพื่อผู้อพยพสากล (IOM) ระบุว่า จนถึงตอนนี้มีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าสู่ยุโรปแล้วกว่า 430,000 คนในปี 2015 โดยมี 2,748 คนที่ตายหรือสูญหายระหว่างทาง