ASTVผู้จัดการรายวัน – “ดีเคเอสเอช” ยื่นเรื่องบริษัทแม่เลโก้ที่เดนมาร์ก ให้ช่วยปรับโครงสร้างราคาในไทยใหม่ เหตุค่าเงินบาทอ่อนตัวส่งผลต้นทุนนำเข้าสูงขึ้น ขยายช่องทางใหม่สู่เทสโก้โลตัสเน้นสินค้าไม่เกิน 1,000 บาท หวังดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ยังไม่เคยเล่น โยกงบตลาดมาช่วยพยุงราคาบางส่วน แต่ยืนยันถึงสิ้นปีนี้ไม่ปรับราคาขึ้นแน่นอน ยันเติบโต 15%
นายชูเกียรติ โตกมลธรรม ผู้อำนวยการธุรกิจอาวุโส ผลิตภัณฑ์ของเล่นเด็กแบรนด์เลโก้ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ทางบริษัทฯได้ทำเรื่องเสนอไปยังบริษัทแม่ของเลโก้ที่เดนมาร์ก เพื่อให้ช่วยพิจารณาช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างราคาของเลโก้ในไทย เพื่อให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจและค่าเงินบาทที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ซึ่งปัจจัยค่าเงินบาทไทยอ่อนตัวลงต่อเนื่องค่อนข้างมาก เฉลี่ยอยู่ที่ 36 บาทต่อดอลล่าร์แล้ว ทำให้ราคานำเข้ามาค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับเกือบทั้งเอเชียที่ค่าเงินอ่อนกันหลายประเทศ โดยเสนอให้คิดจากต้นทุน 33 บาทต่อดอลลาร์
นอกจากนั้นก็ยังมีปัญหาทางด้านภาษีนำเข้าของเล่นเด็กที่สูงถึง 20% ที่ทำให้ราคาขายในไทยสูงกว่าที่อื่น ตรงนี้ภาครัฐบาลน่าจะพิจารณาช่วยลดอัตราภาษีนำเข้าลงบ้าง แต่แม้ว่าโครงสร้างภาษีไทยจะสูง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ราคาที่จำหน่ายก็ไม่น่าที่จะแตกต่างเกินกว่า 20%
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ถึงสิ้นปีนี้เลโก้จะยังคงไม่มีการปรับราคาขายขึ้นแน่นอน ซึ่งเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 5 ปีแล้ว แต่จะเป็นการทำราคาเพื่อให้สามารถดึงดูดผู้บริโภคได้มากกว่า แต่ผลประกอบการของเลโก้ในไทยก็มีการเติบโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์ตลาดบ้าง เช่น การขยายช่องทางจำหน่ายเลโก ในเทสโก้โลตัสเอ็กซ์ตร้า ปัจจุบันมีจำหน่ายแล้วประมาณ 21 สาขา ตามหัวเมืองใหญ่และในกรุงเทพฯ ซึ่งจากนี้ก็คงจะมีการขยายเพิ่มจำนวนสาขาต่อเนื่อง แต่คงต้องเลือกบางสาขาที่มีความเหมาะสมกับตลาดด้วย ทั้งนี้เลโก้ที่จำหน่ายในเทสโก้โลตัส จะเป็นของเล่นในกลุ่มที่มีราคาต่ำลง มาหน่อยไม่เกิน 1,000 บาทต่อชิ้น เพื่อขยายฐานกลุ่มใหม่ๆที่ยังไม่เคยซื้อเลโก้เล่น
ส่วนปีหน้ามีแผนที่จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายใหม่อีกด้วย เช่น ช่องทางออนไลน์ ที่จะต้องมีการศึกษากันให้ละเอียดว่าจะดำเนินการได้อย่างไร เช่นอาจจะร่วมมือกับผู้ประกอบการทางด้านออนไลน์หรือในรูปแบบต่างๆ ซึ่งปัจจุบันนี้เลโก้ในไทยมีเว๊บไซต์แล้ว ไม่ใช่เป็นเว๊บขายสินค้าอีกทั้งจะมีการปรับเปลี่ยนการใช้งบการตลาดประชาสัมพันธ์ใหม่ จากเดิมที่เน้นช่องทางแมสมาก ก็จะนำบางส่วนมาใช้ในการพยุงโครงสร้างราคาสินค้าด้วย
นอกจากนั้นก็มีการนำสินค้าใหม่ๆออกสู่ตลาดต่อเนื่องอย่างน้อยทุกเดือน ซึ่งทำให้ยอดขายเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ และในปีนี้ตั้งเป้าหมายเติบโตไว้ที่ 15% โดยมียอดขายหลักมาจาก เลโก้ซิตี้ เลโก้เฟรนดส์ ในกลุ่มเลโก้ครีเอเตอร์ เลโก้เทคนิค และเลโก้สตาร์วอร์ส โดยเลโก้นินจาโกมิ มียอดขายเป็นสัดส่วน 10% จากทั้งหมดของเลโก้
ในไตรมาสสุดท้ายนี้บริษัทฯใช้งบตลาด 14 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นให้ตลาดคึกคัก ทั้งอะโบฟเดอะไลน์และบีโลว์เดอะไลน์ ขณะที่ปีหน้าจะมีการจัดกิจกรรมใหญ่ของเลโก้ ซึ่งตลาดรวมของเล่นเด็กในไทยมีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่เเฉพาะกลุ่มพรีเมียมประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งเล
โก้มีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มพรีเมียมปรมาณ 8% ช่วงที่ผ่านมาตลาดรวมค่อนข้างซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ยอดขายของเลโก้ก็ยังมีการเติบโตเช่นเดิมอ่างน้อย2 หลัก