SMPC คาดผลประกอบการครึ่งปีหลัง 58 น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เผยดีมานด์ถังแก๊สฟื้นตัวโดยรับอานิสงส์ราคาตลาดโลกของเหล็กเริ่มคงที่ และค่าเงินบาทอ่อน หนุนปริมาณขายทั้งปีโต 15-20% ตามเป้าหมาย “สุรศักดิ์” ลั่นความพร้อมรุกตลาดต่างประเทศ เน้นโซนแอฟริกา เอเชีย และตะวันออกกลางเนื่องจากยังมีความต้องการใช้ถังแก๊ส LPG เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ โดยจำหน่ายภายใน และต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SMPC” รวมทั้งรับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ เปิดเผยถึงทิศทางผลประกอบการในครึ่งนี้ โดยคาดว่าผลประกอบการจะดีกว่าครึ่งปีแรกตามความต้องการใช้ถังแก๊สทั้งใน และต่างประเทศที่กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อจากสถานการณ์ราคาเหล็กที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาเหล็กในตลาดโลกเริ่มคงที่แล้ว ทำให้ลูกค้าเริ่มกลับมาซื้อมากขึ้น นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโร และดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในฐานะผู้ส่งออก เพราะยอดขายหลักมาจากการส่งออก 80-90% อีกทั้งมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีความชัดเจนมากขึ้น จากการที่ภาครัฐบาลเตรียมมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
“แนวโน้มธุรกิจทั้งปี 58 ประเมินปริมาณขายยังคงเป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตที่ 15-20% เป็นผลมาจากแนวโน้มความต้องการใช้แก๊ส LPG ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณการใช้ถังบรรจุขยายตัวตามไปด้วย อีกทั้งบริษัทยังได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อน อย่างไรก็ตาม ราคาเหล็กที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีทำให้ยอดขายปีนี้ไม่เติบโตตามประมาณการปีก่อน นอกจากนี้ การขยายกำลังการผลิตโรงงานถังซ่อมที่คาดว่าจะใกล้เสร็จในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะส่งผลที่ชัดเจนต่อนยอดขาย และกำไรในปีหน้า”
ด้านการรุกตลาดในต่างประเทศ บริษัทฯ ยังคงบริหารงานโดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการขยายตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะในแถบประเทศที่กำลังพัฒนาในโซนแอฟริกา และเอเชีย เนื่องจากยังมีความต้องการใช้แก๊ส LPG เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องต่อภาพรวมเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ขยายตัว ประกอบกับราคา LPG ในตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลง ทำให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนหันมาใช้แก๊ส LPG เป็นเชื้อเพลิงมากขึ้น จึงมองว่าเป็นโอกาสในการขยายฐานสร้างรายได้ให้กว้างยิ่งขึ้น
“บริษัทฯให้ความสำคัญต่อการขยายตลาดในต่างประเทศ เนื่องจากประเมินว่าความต้องการใช้แก๊ส LPG ในต่างประเทศยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคา LPG ในตลาดโลกปรับตัวลดลง โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาในโซนแอฟริกา และเอเชีย ซึ่งส่งผลบวกต่อบริษัทฯ ที่เป็นผู้ผลิตถังบรรจุแก๊ส LPG อีกทั้งบริษัทฯ มีการขยายกำลังการผลิตโรงงานถังซ่อม และเพิ่มประเภทถังบรรจุขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขาย และกำไรให้แก่บริษัทฯ ในอนาคต”
นายสุรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 28 กันยายน-2 ตุลาคม 2558 นี้ บริษัทฯ จะเข้าร่วมงาน “World LPG Forum” ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งงานในดังกล่าวนี้จะเป็นการพบปะลูกค้าต่างประเทศ และจะมีองค์กรรายใหญ่ของโลกเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก มองว่าเป็นโอกาสดีในการที่บริษัทฯ มีโอกาสเข้าร่วมงานซึ่งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจและโอกาสในการหาตลาดใหม่ๆ อีกด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 1,236.13 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,457.55 ล้านบาท ลดลง 221.42 ล้านบาท หรือ 15% ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 213.56 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 131.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.12 ล้านบาท หรือ 62%