“บิ๊กซี” พัฒนาระบบซัปพลายเชนสมบูรณ์แบบ เปิดศูนย์กระจายสินค้าอาหารสด ลาดกระบัง แห่งที่ 4 มูลค่า 1.7 พันล้านบาท บนพื้นที่ 106 ไร่ เพิ่มประสิทธิภาพการกระจายสินค้าไปยังบิ๊กซีทุกรูปแบบทั่วประเทศ พร้อมลดความสูญเสีย 15-20% เอื้อประโยชน์ผู้บริโภคซื้อสินค้าราคาถูกลง 5%
นายแอนดี้ ไพรส์ ผู้อำนวยการศูนย์กระจายสินค้าอาหารสด ลาดกระบัง บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2558 “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” มีการพัฒนาระบบซัปพลายเชนอย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากเปิดดำเนินงานศูนย์กระจายสินค้าอาหารสด ลาดกระบัง สำหรับบิ๊กซีทุกรูปแบบสาขา เป็นแห่งที่ 4 ด้วยมูลค่าลงทุน 1.7 พันล้านบาท ขนาด 2 หมื่นตารางเมตร บนพื้นที่ 106 ไร่ บริเวณ ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็นทำเลที่อยู่ใกล้แหล่งผลิตสินค้า ทั้งยังช่วยลดระยะการเดินทางและเอื้อต่อการเชื่อมต่อเส้นทางขนส่งไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศได้อย่างสะดวก เช่น ถนนสุวินทวงศ์ ถนนวงแหวนตะวันออก หรือมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี
ปัจจุบันศูนย์กระจายสินค้าอาหารสด ลาดกระบัง มีคู่ค้า หรือ Vendor หมุนเวียนขนส่งสินค้าประมาณ 400 ราย สามารถกระจายอาหารสดวันละ 4 หมื่นลังไปยังบิ๊กซีทุกรูปแบบ 550 สาขาจากทั้งหมดที่มี 665 สาขา ในขณะที่ศักยภาพด้านการกระจายอาหารสดยังสามารถเพิ่มได้อีกหนึ่งเท่าตัวเพื่อรองรับสาขาได้ถึง 700 แห่ง ทั้งยังสามารถขยายพื้นที่ได้อีกประมาณ 30% เมื่อการขนส่งถึงจุดเต็มศักยภาพ
ศูนย์กระจายสินค้าอาหารสด ลาดกระบัง มีศักยภาพในการรองรับสินค้าจำพวกอาหารแช่แข็งและอาหารควบคุมอุณหภูมิกว่า 28.8 ล้านลังต่อปี มากกว่าเดิม 80% โดยมีการแบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1. ห้องควบคุมอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียสสำหรับอาหารประเภทขนมปังและเบเกอรี 2. ห้องควบคุมอุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียสสำหรับผักและผลไม้ตามฤดูกาล 3. ห้องควบคุมอุณหภูมิ 1 องศาเซลเซียสสำหรับเนื้อ หมู ไก่ อาหารทะเล นม และโยเกิร์ต 4. ห้องควบคุมอุณหภูมิ -23 องศาเซลเซียสสำหรับอาหารแช่แข็ง
“บิ๊กซีมีเป้าหมายและกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจด้านสินค้าอาหารสดคือการควบคุมคุณภาพและลดการสูญเสียของสินค้าให้อยู่ในระดับ 0% เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคทั่วประเทศที่จะได้รับสินค้าที่สดใหม่ในราคาถูก โดยขณะนี้ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้สามารถลดการสูญเสียสินค้าประมาณ 15-20% และช่วยให้สินค้ามีราคาถูกลงประมาณ 5%” นายแอนดี้ ไพรส์ กล่าวในตอนท้าย
ด้าน นางสาววารุณี กิจเจริญพูลสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวและยังไม่มีปัจจัยบวกในครึ่งปีหลัง แต่สินค้าอาหารสดถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริโภคในการดำรงชีวิตประจำวัน ทำให้มีสัญญาณการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี โดยในช่วงครึ่งปีแรก “บิ๊กซี” มียอดขายอาหารสดเติบโตขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย “บิ๊กซี” มีการจัดกิจกรรมลดราคาอาหารสดเพิ่ม 10% ทุกวันพุธ เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและลดค่าครองชีพผู้บริโภค
อนึ่ง จากข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2558 “บิ๊กซี” มีทั้งสิ้น 665 สาขา แบ่งเป็น 1. ไฮเปอร์มาร์เกต 124 สาขา 2. บิ๊กซี มาร์เก็ต 40 สาขา 3. มินิ บิ๊กซี รวมในสถานีปั๊มน้ำมันบางจาก 342 สาขา 4. ร้านเพรียว 159 สาขา โดยมีศูนย์กระจายสินค้า 4 แห่ง คือ 1. ศูนย์กระจายสินค้าแบบถ่ายสินค้าจากพาหนะสู่พาหนะ หรือ Cross Dock ณ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 2. ศูนย์กระจายสินค้าประเภท Non-Food สำหรับบิ๊กซีรูปแบบไฮเปอร์มาร์เกตและมาร์เกต ณ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา 3. ศูนย์กระจายสินค้าประเภท Non-Food สำหรับมินิบิ๊กซี ณ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 4. ศูนย์กระจายสินค้าอาหารสด ลาดกระบัง สำหรับบิ๊กซีทุกรูปแบบสาขา