ASTVผู้จัดการรายวัน – กำลังซื้อหดตัวยาว เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น “เทสโก้” ทุ่ม 3,000 ล้านบาท ปรับโครงสร้างราคาสินค้า ดั๊มป์ราคาลง หวังดึงผู้บริโภคจับจ่าย ยอมรับปิดร้านโมเดล “365” แล้ว ด้าน “บิ๊กซี” ไม่น้อยหน้า คุยโว ทั้งปีทุ่มงบ ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านนบาทเช่นกัน คาดไตรมาสสุดท้าย แคมเปญราคาแข่งกันดุเดือด
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการพาณิชย์ เทสโก้โลตัส บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เปิดเผยว่า ในภาวะเที่เศรษฐกิจของประเทศไม่ค่อยดี กำลังซื้อลดลง ทุกธุรกิจต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกจะต้องติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา ถ้าไม่มีการปรับแผนลูกค้าก็จะไปซื้อที่อื่นที่มีราคาต่ำกว่า และมีโปรโมชั่นที่จูงใจมากกว่า ซึ่งเฉลี่ยแล้วเทสโก้มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจับจ่ายประมาณ 12 ล้านคนต่อสัปดาห์
***** “เทสโก้”โวดั๊มป์ราค3 พันล.
ปีนี้เทสโก้ ใช้งบประมาณในการจัดโปรโมชั่นมากกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่ที่แล้วที่ใช้ประมาณ 2,000 ล้านบาท และมากที่สุดในรอบ 20 ปีที่ดำเนินกิจการในไทย เพื่อ่นำมาใช้ในการปรับลดราคาสินค้าลงนานถึงสิ้นปี เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองในปัจจุบันนี้ เพื่อพยายามดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการตลอดเวลา
ไม่ใช่มาซื้อสินค้าตามโปรโมชั่นทำให้ปริมาณการเข้ามาจับจ่ายแกว่งไปแกว่งมาไม่แน่นอน และครึ่งปีแรกใช้ไปแล้วประมาณ 40%
ทั้งนี้งบดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักคือ 1.งบ 300 ล้านบาท ใช้ในการปรับลดราคาสินค้า ลง 10% ซึ่งเริ่มกลุ่มสินค้าแม่และเด็กแล้ว เมื่อช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มกับสินค้า ผ้าอ้อมเด็ก นมผงเด็ก และปลายสัปดาห์นี้จะตามด้วยนมยูเอชที ที่โมเดลไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่วนเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสไม่ได้เข้าร่วมรายการนี้ 2.งบ 2,000 ล้านบาท ใช้ในการจัดโปรโมชั่นรวมถึงคูปองสุดเซอร์ไพร้ซ์ทุกสัปดาห์ เช่น ซื้อ 1 ฟรี 1 หรือซื้อ 2 แถม 1 เป็นต้น ทั้งในไฮเปอร์มาร์เก็ตกับเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส
3.งบ 600 ล้านบาท ใช้ในการปรับราคาอาหารสดเป็นราคาขายส่ง เริ่มเมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมาเฉพาะในโมเดลไฮเปอร์มาร์เก็ต เริ่มจาก 150 รายการ ครอบคลุมสินค้าผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ อาหารทะเล เป็นต้น ซึ่งทำให้ราคาแผนกอาหารสดถูกกว่าเดิม 15% และจากนี้จะเริ่มในโมเดลเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสด้วย
นายสมพงษ์ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับโมเดลร้าน 365 ที่เป็นคอนวีเนียนสโตร์ที่ทดลองตลาดมาได้ระยะหนึ่งและล่าสุดได้ปิดร้านไปหมด แล้วทุกสาขาประมาณ 5 สาขา เนื่องจากบริษัทฯต้องการหันมาโฟกัสในโมเดลเอ็กซ์เพรสมากกว่าที่สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ดีกว่า โดยปีนี้มีแผนที่จะเปิดโมเดลไฮเปอร์มาร์เก็ตประมาณ 4-5 สาขา ซึ่งเปิดไปแล้ว 4 สาขา ปัจจุบันมีรวม 160 สาขาใหญ่ ส่วนโมเดลเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส จะเปิด 50 สาขาต่อปีเหมือนเดิม ซึ่งปัจจุบันมี 1,450 สาขา คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีครบ 1,500 สาขา
เขากล่าวด้วยว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคในเวลานี้ที่กรุงเทพฯและปริมณฑลจะดีกว่าในต่างจังหวัด และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรก จากการกระตุ้นของภาครัฐบาล และในส่วนของเทสโก้โลตัสเองด้วย ซึ่งครึ่งปีแรกผลประกอบการของเทสโก้ยังเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายและเติบโต มากกว่าตลาดรวม
*** “บิ๊กซี “ลั่นอัด 3พันล.กระตุ้นตลาด
นางสาววารุณี กิจเจริญพูลสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า งบประมาณที่บิ๊กซีใช้ในปีนี้มีมาก เช่น งบกิจกรรมส่งเสริมการขายด้านอาหารสด ประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งถ้ารวมงบประมาณด้นการตลาดทั้งหมดแล้วปีนี้ใช้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท และบริษัทเองก็มีแผนที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอีกหลายแคมเปญ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคในไตรมาส 3 และ 4 นี้ด้วยเนื่องจากกำลังซื้อไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
หลังจากที่บิ๊กซีดำเนินกิจการในไทยมาครบ 22 ปีในปีนี้ ล่าสุดจึงได้จัดแคมเปญใหญ่ “บิ๊กซี ฉลอง 22 ปี รวยง่ายไม่ต้องช้อป” ด้วยการพิมพ์ บีซีซี ตามด้วยรหัสสมาชิกบิ๊กการ์ด 16 หลัก ส่งมาตามหมายเลขที่ระบุ เพื่อลุ้นรับทองคำมูลค่า 1 ล้านบาท และยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นเช่น แคมเปญซื้อ 1 แถม1 ,ซื้อ 2 แถม 1 และซื้อชิ้นที่ 2 ราคากูกกว่าชิ้นแรก และยังมีแคมเปญอื่นๆตามมาอีกตลอดทั้งปี
ยอมรับว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคตอนนี้ ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ไตรมาสที่สี่นี้คาดว่า กำลังซือ้จะกลับฟื้นตัวดีขึ้นบ้างเพราะว่าภาครัฐมีการใช้งบประมาณเพือ่กระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น รวมทั้งธุกริจค้ราปลีกโดยรวมก็คงมีการแข่งขันด้านโปรโมชั่นแคมเปญราคากันอย่างรุนแรงแน่นอนเพือ่กระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค
ส่วนผลประกอบการของบิ๊กซีในไตรมาสสองที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิเติบโต4.7% ปัจจัยหลกัมาจากรายได้จากพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น 5%
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการพาณิชย์ เทสโก้โลตัส บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เปิดเผยว่า ในภาวะเที่เศรษฐกิจของประเทศไม่ค่อยดี กำลังซื้อลดลง ทุกธุรกิจต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกจะต้องติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา ถ้าไม่มีการปรับแผนลูกค้าก็จะไปซื้อที่อื่นที่มีราคาต่ำกว่า และมีโปรโมชั่นที่จูงใจมากกว่า ซึ่งเฉลี่ยแล้วเทสโก้มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจับจ่ายประมาณ 12 ล้านคนต่อสัปดาห์
***** “เทสโก้”โวดั๊มป์ราค3 พันล.
ปีนี้เทสโก้ ใช้งบประมาณในการจัดโปรโมชั่นมากกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่ที่แล้วที่ใช้ประมาณ 2,000 ล้านบาท และมากที่สุดในรอบ 20 ปีที่ดำเนินกิจการในไทย เพื่อ่นำมาใช้ในการปรับลดราคาสินค้าลงนานถึงสิ้นปี เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองในปัจจุบันนี้ เพื่อพยายามดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการตลอดเวลา
ไม่ใช่มาซื้อสินค้าตามโปรโมชั่นทำให้ปริมาณการเข้ามาจับจ่ายแกว่งไปแกว่งมาไม่แน่นอน และครึ่งปีแรกใช้ไปแล้วประมาณ 40%
ทั้งนี้งบดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักคือ 1.งบ 300 ล้านบาท ใช้ในการปรับลดราคาสินค้า ลง 10% ซึ่งเริ่มกลุ่มสินค้าแม่และเด็กแล้ว เมื่อช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มกับสินค้า ผ้าอ้อมเด็ก นมผงเด็ก และปลายสัปดาห์นี้จะตามด้วยนมยูเอชที ที่โมเดลไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่วนเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสไม่ได้เข้าร่วมรายการนี้ 2.งบ 2,000 ล้านบาท ใช้ในการจัดโปรโมชั่นรวมถึงคูปองสุดเซอร์ไพร้ซ์ทุกสัปดาห์ เช่น ซื้อ 1 ฟรี 1 หรือซื้อ 2 แถม 1 เป็นต้น ทั้งในไฮเปอร์มาร์เก็ตกับเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส
3.งบ 600 ล้านบาท ใช้ในการปรับราคาอาหารสดเป็นราคาขายส่ง เริ่มเมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมาเฉพาะในโมเดลไฮเปอร์มาร์เก็ต เริ่มจาก 150 รายการ ครอบคลุมสินค้าผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ อาหารทะเล เป็นต้น ซึ่งทำให้ราคาแผนกอาหารสดถูกกว่าเดิม 15% และจากนี้จะเริ่มในโมเดลเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสด้วย
นายสมพงษ์ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับโมเดลร้าน 365 ที่เป็นคอนวีเนียนสโตร์ที่ทดลองตลาดมาได้ระยะหนึ่งและล่าสุดได้ปิดร้านไปหมด แล้วทุกสาขาประมาณ 5 สาขา เนื่องจากบริษัทฯต้องการหันมาโฟกัสในโมเดลเอ็กซ์เพรสมากกว่าที่สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ดีกว่า โดยปีนี้มีแผนที่จะเปิดโมเดลไฮเปอร์มาร์เก็ตประมาณ 4-5 สาขา ซึ่งเปิดไปแล้ว 4 สาขา ปัจจุบันมีรวม 160 สาขาใหญ่ ส่วนโมเดลเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส จะเปิด 50 สาขาต่อปีเหมือนเดิม ซึ่งปัจจุบันมี 1,450 สาขา คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีครบ 1,500 สาขา
เขากล่าวด้วยว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคในเวลานี้ที่กรุงเทพฯและปริมณฑลจะดีกว่าในต่างจังหวัด และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรก จากการกระตุ้นของภาครัฐบาล และในส่วนของเทสโก้โลตัสเองด้วย ซึ่งครึ่งปีแรกผลประกอบการของเทสโก้ยังเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายและเติบโต มากกว่าตลาดรวม
*** “บิ๊กซี “ลั่นอัด 3พันล.กระตุ้นตลาด
นางสาววารุณี กิจเจริญพูลสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า งบประมาณที่บิ๊กซีใช้ในปีนี้มีมาก เช่น งบกิจกรรมส่งเสริมการขายด้านอาหารสด ประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งถ้ารวมงบประมาณด้นการตลาดทั้งหมดแล้วปีนี้ใช้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท และบริษัทเองก็มีแผนที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอีกหลายแคมเปญ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคในไตรมาส 3 และ 4 นี้ด้วยเนื่องจากกำลังซื้อไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
หลังจากที่บิ๊กซีดำเนินกิจการในไทยมาครบ 22 ปีในปีนี้ ล่าสุดจึงได้จัดแคมเปญใหญ่ “บิ๊กซี ฉลอง 22 ปี รวยง่ายไม่ต้องช้อป” ด้วยการพิมพ์ บีซีซี ตามด้วยรหัสสมาชิกบิ๊กการ์ด 16 หลัก ส่งมาตามหมายเลขที่ระบุ เพื่อลุ้นรับทองคำมูลค่า 1 ล้านบาท และยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นเช่น แคมเปญซื้อ 1 แถม1 ,ซื้อ 2 แถม 1 และซื้อชิ้นที่ 2 ราคากูกกว่าชิ้นแรก และยังมีแคมเปญอื่นๆตามมาอีกตลอดทั้งปี
ยอมรับว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคตอนนี้ ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ไตรมาสที่สี่นี้คาดว่า กำลังซือ้จะกลับฟื้นตัวดีขึ้นบ้างเพราะว่าภาครัฐมีการใช้งบประมาณเพือ่กระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น รวมทั้งธุกริจค้ราปลีกโดยรวมก็คงมีการแข่งขันด้านโปรโมชั่นแคมเปญราคากันอย่างรุนแรงแน่นอนเพือ่กระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค
ส่วนผลประกอบการของบิ๊กซีในไตรมาสสองที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิเติบโต4.7% ปัจจัยหลกัมาจากรายได้จากพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น 5%