xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดนมยูเอชทีเริ่มกระเตื้อง “ดูเม็กซ์” เพิ่มงบ “ไฮคิว” 5 เท่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“กุสตาโว ฮิลเดนแบรนด์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูเม็กซ์ จำกัด
ASTVผู้จัดการรายวัน - พิษเศรษฐกิจฟาดตลาดนมยูเอชทีนิ่ง ส่งยูเอชทีเสริมสารอาหารปีนี้โตเพียง 8% “ไฮคิว” อัดงบตลาดเพิ่ม 5 เท่า ปล่อยแคมเปญ “ไฮคิว ยูเอชที ดรีมดิสคัฟเวอรี่” เจาะวัยเด็กช่างฝัน 3-6 ขวบเพิ่มฐาน พร้อมเพิ่มสัดส่วนผู้นำตลาดยูเอชทีเสริมอาหารมากกว่า 50% ในปีนี้ เชื่อดันรายได้รวมดูเม็กซ์โตกว่าตลาดรวม

นายกุสตาโว ฮิลเดนแบรนด์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูเม็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในครึ่งหลังปี 2558 เชื่อว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดนมรวมแล้วมองว่าครึ่งปีหลังนี้น่าจะดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ตัวเลขค่อนข้างต่ำ บวกกับครึ่งปีหลังผู้เล่นในตลาดเริ่มขยับทำการตลาดมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดนมยูเอชทีประมาณ 1 หมื่นล้านบาทยังคงมีอัตราการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 5% เช่นปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในกลุ่มตลาดนมยูเอชที แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลัก คือ 1. นมยูเอชทีเพิ่มสารอาหาร มูลค่า 2.5 พันล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตมากสุดถึง 13% ในปี 2557 แต่ในปีนี้มองว่าจะเติบโตเพียง 8% จากการที่ผู้เล่นส่วนใหญ่นิ่งในการทำตลาด ทำให้ยอดขายไม่กระเตื้อง 2. นมโค 100% มีมูลค่า 1.4 พันล้านบาท 3. นมถั่วเหลือง มูลค่า 900 ล้านบาท 4. TFD ผสมมอลต์ มูลค่า 3.7 พันล้านบาท และ 5. นมเปรี้ยว มูลค่า 1 พันล้านบาท

ในส่วนของ “ไฮคิว” ปีนี้พร้อมใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่าในการทำตลาดและส่งเสริมการขาย ล่าสุดจัดแคมเปญ “ไฮคิว ยูเอชที ดรีมดิสคัฟเวอรี่” เพื่อจับกลุ่มเด็กอายุ 3-6 ขวบ ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กที่เริ่มเลือกสิ่งต่างๆ ให้ตัวเอง ถือเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าวัยเด็กจากปกติจะเน้นเป็นพ่อแม่ที่เลือกนมให้แก่เด็ก ที่สำคัญยังเป็นการสร้างความใกล้ชิดระหว่างเด็กกับแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมเรื่องของความฝันสำหรับเด็ก เชื่อว่าจะเป็นแคมเปญที่ทำให้ภาพรวมตลาดนมยูเอชทีเพิ่มสารอาหารมีขนาดใหญ่ขึ้น และส่งผลให้ “ไฮคิว” มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นตามมา

จากปัจจุบัน “ไฮคิว” เป็นผู้นำตลาดนมยูเอชทีเพิ่มสารอาหาร โดยมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อยู่ 2 ชนิด คือ “สูตร 3” สำหรับเด็กอายุ 1-3 ขวบ และ “สูตร 4” สำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ซึ่งในตลาดนี้มีผู้เล่นหลักอยู่ 3 ราย คือ “ไฮคิว” มีส่วนแบ่ง 50% “เอ็นฟา โกร” มีส่วนแบ่งตลาด 25% และ “ตราหมี” มีส่วนแบ่งประมาณ 20% ตามลำดับ

นายกุสตาโวกล่าวต่อว่า ผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ไฮคิว” มี 3 กลุ่ม คือ ผลิตภัณฑ์นมสำหรับคุณแม่, นมผงสำหรับเด็ก และนมยูเอชที ซึ่งทั้งหมดนี้ทำยอดขายเป็นสัดส่วน 25% ให้บริษัทฯ โดยในปีนี้มองว่ารายได้รวมน่าจะมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 1 หลัก และเป็นตัวเลขการเติบโตที่สูงกว่าตลาดนมรวมทั้งหมด ถือเป็นการเติบโตที่เป็นไปตามเป้าและเติบโตต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา




กำลังโหลดความคิดเห็น