“อนุฯ โครงสร้างพื้นฐาน” มอบกรมทางหลวง-สนข.และหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งปรับแผนลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ลดขนาดลงทุนที่สระแก้ว “อาคม” เผย กนพ.ให้ทบทวนเพื่อความเหมาะสม พร้อมให้ออกแบบต่อขยายมอเตอร์เวย์จากกาญจนบุรี-พุน้ำร้อน เผยปี 59 ได้งบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 1 จำนวน 6,169 ล้านบาทแล้ว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด่านศุลกากร ครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ได้มีการติดตามความก้าวหน้าและเร่งรัดการดำเนินโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะแรก จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย อ.แม่สอด จ.ตาก, อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, อ.คลองใหญ่ จ.ตราด, อ.เมือง จ.มุกดาหาร, อ.สะเดา จ.สงขลา และ จ.หนองคาย ซึ่งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ได้มอบให้คณะอนุกรรมการฯ ทบทวนปรับปรุงแผนพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน และด่านศุลกากรในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว โดยปรับแบบเพื่อลดขนาดการลงทุนลงไม่ให้ใหญ่มากจนเกินไป ดังนั้น ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯจึงมอบหมายให้ กรมทางหลวง ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมศุลกากร กรมโยธาธิการ และกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกันปรับแผนให้เรียบร้อยภายใน 3 เดือน โดยตั้งเป้าให้สามารถเสนอแผนและดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำ บ้านหนองเอี่ยน ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะต้องมีการหารือกับกัมพูชาเรื่องจุดข้ามแดน โดยกัมพูชาขอรับการสนับสนุนเงินกู้ผ่อนปรนจากรัฐบาลไทย ในการก่อสร้างสะพานในฝั่งกัมพูชาและถนนเชื่อมไปยังถนนหมายเลข 5 ซึ่งสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับเพื่อนบ้าน (สพพ.) หรือ NEDA ได้เข้าไปศึกษาแล้ว
ทั้งนี้ กรมศุลกากรได้ขอใช้พื้นที่กรมธนารักษ์จำนวน 60 ไร่ อยู่ห่างจากด่านประมาณ 3 กม. เพื่อทำเป็นจุดตรวจปล่อยสินค้า เพื่อลดความแออัดหน้าด่าน ขณะที่ทางรถไฟจากปอยเปต-ศรีโสภณ ระยะทาง 6 กม.ทางกัมพูชา ยืนยันที่จะดำเนินการก่อสร้างในเดือน ต.ค. 2558 แล้วเสร็จภายในต้นปี 2559 (ใช้เวลาก่อสร้าง 6-7 เดือน) ซึ่งจะทำให้สามารถเดินรถไฟเชื่อมระหว่างอรัญประเทศ-ปอยเปต-ศรีโสภณ เพื่อขนส่งทั้งผู้โดยสารและสินค้าได้สะดวกมากขึ้น
ส่าวนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดสงขลา กรมศุลกากร ดำเนินโครงการปรับปรุงด่านศุลกากรสะเดา (ด่านพรมแดนสะเดาขาออก) ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2558 และอยู่ระหว่างดำเนินงานโครงการ ปรับปรุงอาคารที่ทำการด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ พร้อมบริเวณ ระยะที่ 1 โดยจุดตรวจปล่อยสินค้าจะอยู่ห่างจากด่านประมาร 5 กม.ซึ่งจะอำนวยความสะดวกสำหรับรถขนส่งสินค้าได้เช่นกัน และในเร็วๆ นี้จะมีการหารือร่วมกับมาเลเซียในการกำหนดปริมาณรถผ่านเข้าออกระหว่างสองประเทศ ทั้งรถโดยสาร รถบรรทุก รถตู้
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ได้เสนอแนวทางพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษด่านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่ 196 ตร.กม.เพื่อเชื่อมโยงการเส้นทาง คมนาคมไปยังท่าเรือน้ำลึกทวาย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ซึ่งที่ประชุมมีมติให้กรมทางหลวงออกแบบเพื่อต่อขยายมอเตอร์เวย์จากกาญจนบุรี-พุน้ำร้อน โดยจะต้องเชื่อมถนนเข้าสู่ด่านให้สมบูรณ์
ทั้งนี้ กนพ.ได้มีมติให้กระทรวงคมนาคมปรับแผนการลงทุนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 1 จำนวน 5 จังหวัด เบื้องต้นในปี 2559 มีงบลงทุนจำนวน 6,169 ล้านบาท ซึ่งหากหน่วยงานใดมีความจำเป็นเร่งด่วนสามารถนำเสนอเข้ามาได้ ส่วนเขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 ได้แก่ จ.เชียงราย (แม่สาย เชียงแสน เชียงของ) จ.นครพนม จ.กาญจนบุรี และ จ.นราธิวาส ซึ่ง สนข.จะต้องสรุปการดำเนินงานในปี 58 และแผนในปี 59 เพื่อนำเสนอที่ประชุม กนพ.ในวันที่ 16 ก.ย.นี้