จับตาแพกเกจช่วยเหลือ SMEs รัฐจ่อทุ่มเม็ดเงินช่วยเหลือกว่าแสนล้านบาท “สมคิด” เตรียมดันเข้า ครม.อังคารหน้า กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมเสนออุ้ม SMEs 1 หมื่นรายเตรียมดันกองทุน 1,000 ล้านบาทช่วยกลุ่มที่กำลังจะวิกฤตเข้าไม่ถึงแหล่งเงิน
นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันนี้ (4 ก.ย.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะสรุปเป็นแพกเกจในการช่วยดำเนินการเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 ก.ย.นี้ โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมเบื้องต้นจะเสนอแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ SMEs ที่ประสบปัญหาประมาณ 10,000 ราย โดยร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (สสว.)
“ตามแผนเบื้องต้นในแพกเกจช่วยเหลือ SMEs ของรัฐบาลจะประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ การเงิน การคลัง การเพิ่มรายได้ และมาตรการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน โดยในส่วนของด้านการเงินกรอบใหญ่จะแบ่งเป็น 3 แนวทาง คือ 1. สินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูจากสถาบันการเงิน วงเงิน 1 แสนล้านบาท 2. กองทุนพลิกฟื้น SMEs ที่ประสบปัญหาทางการเงิน 1,000 ล้านบาท และ 3. กองทุนสตาร์ทอัพนักรบใหม่ วงเงิน 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการพัฒนา SMEs ใหม่ๆ” นางอรรชกากล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงอุตฯ เสนอช่วยเหลือ SMEs 10,000 ราย โดยให้ สสว.คัดเลือกและแยกกลุ่ม SMEs ดังกล่าวออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. SMEs ที่ประสบปัญหาทางการเงินค่อนข้างมากหรือค่อนข้างวิกฤต 10% ก็จะต้องช่วยเหลือระยะด่วนในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะทางด้านการเงินซึ่งจะมีการดึงเงินมาจาก สสว.ที่เดิมได้รับงบประมาณมาดำเนินกองทุนตั้งตัวได้ 1,000 ล้านบาท โดยจะขอ ครม.อนุมัติโยกงบมาตั้งเป็นกองทุนพลิกฟื้น SMEs ที่ประสบปัญหาการเงิน 2. SMEs ที่มีปัญหาไม่มาก 40% ก็จะต้องเยียวยา 3. SMEs 50% มีปัญหาไม่มากแต่ต้องการพัฒนา
สำหรับการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรม (Cluster) 7 กลุ่มที่จะต้องเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัย เชื่อมโยงกับ SMEs และธุรกิจท้องถิ่น ฯลฯ นั้นจะมีการเสนอให้นายสมคิดพิจารณาในสัปดาห์ต่อไป โดยจะมองการพัฒนาพื้นที่ของแต่ละอุตสาหกรรม ส่วนงานเร่งด่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การปรับโครงสร้างอ้อย การแก้ไขปัญหาผังเมืองที่มีผลกระทบต่อการขยายโรงงาน ศูนย์ทดสอบรถยนต์ การใช้งบประมาณขนาดเล็กไม่เกิน 1 ล้านบาท ระยะกลาง ได้แก่ การกำจัดกากอุตสาหกรรม น้ำเสีย