สมรภูมิคอนวีเนียนสโตร์เดือด “เซเว่นฯ” ปิดทางคู่แข่ง ยกระดับ “T.A.C.C.” จากคู่ค้าสู่เอ็กซ์คลูซีฟพันธมิตรเครื่องดื่มในโถกด หลังพบที่ผ่านมาถูกรุมจีบเพียบ ฟาก “T.A.C.C.” ใจแข็งขออยู่คู่เซเว่นฯ เชื่อความแข็งแกร่งของเซเว่นฯ นำพารายได้ปีนี้สู่ 1,000 ล้านบาท หลังเจอเศรษฐกิจฟาดหางปีนี้ทรงตัว ต่างประเทศชะงักแผนไปต่อไม่ได้
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (T.A.C.C.) เปิดเผยว่า ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา T.A.C.C. เริ่มต้นธุรกิจจากการเป็นคู่ค้ากับทางเซเว่นฯ ด้วยธุรกิจเครื่องดื่มในโถกด หรือโพสต์มิกซ์ กับเครื่องดื่มชานมเย็นเป็นอันดับแรก และนำไปสู่เครื่องดื่มชนิดอื่นๆ และแบรนด์อื่นๆ ที่มีจำหน่ายในเซเว่นฯ ในปัจจุบัน อย่าง ชาเขียว ตรา เซนย่า, กาแฟกระป๋อง วีสลิม
โดยล่าสุดในปีนี้บริษัทได้ถูกยกระดับขึ้นเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพันธมิตรกับทางเซเว่นฯ เกี่ยวกับกลุ่มเครื่องดื่มในโถกด ภายใต้สัญญาที่มีผลบังคับใช้ 3 ปี ตั้งแต่ ก.ค. 58-มิ.ย. 61 จากที่ผ่านมาจะเป็นลักษณะปีต่อปี มั่นใจว่าการจับมือกันในครั้งนี้ และความแข็งแกร่งของเซเว่นฯ จะช่วยให้บริษัทมีรายได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
“ปัจจุบันทีเอซีซีถือเป็นเจ้าตลาดในกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มในโถกดภายในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีการแข่งขันรุนแรง มีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามา และทางทีเอซีซีเองได้ถูกทาบทาม หรือได้รับการติดต่อเจรจากับรายอื่นๆ ในการให้เข้าไปร่วมเป็นพันธมิตรผลิตและดูแลธุรกิจเครื่องดื่มในโถกดให้กับเชนต่างๆ เกือบทุกราย แม้ว่าบางรายจะนำเสนอผลประโยชน์ที่น่าสนใจมากก็ตาม แต่ทางบริษัทไม่ได้ตัดสินใจที่จะเป็นพันธมิตร หรือ OEM ให้กับแบรนด์อื่นนอกจากเซเว่นฯ”
เนื่องจากต้องการที่จะเป็นพันธมิตรทางการค้าให้กับทางเซเว่นฯ เพียงรายเดียว เพราะเชื่อว่าหากเรามีความเชื่อใจภักดีต่อคู่ค้า การดำเนินธุรกิจในวันข้างหน้าก็จะดีตาม ที่สำคัญเราเกิดมาจากเซเว่นฯ จึงไม่คิดที่จะทำให้แบรนด์อื่น”
อย่างไรก็ตาม ทีเอซีซี 10 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง 10-20% ทุกปี จนในปีที่ผ่านมาได้รุกตลาดต่างประเทศ ภายใต้การจำหน่ายชาเขียวแบรนด์ เซนย่า ไปยังกัมพูชา สิงคโปร์ พม่า ลาว และดูไบ เป็นต้น และแบรนด์สวัสดี ซึ่งเป็นเครื่องดื่มผงทรีอินวัน มี 2 รสชาติ คือ ทุเรียน และมะม่วง แต่พบว่ายอดขายทั้งในประเทศ และต่างประเทศปีนี้ทรงตัวทั้งคู่
โดยในส่วนของไทยนั้นมาจากสภาพเศรษฐกิจ ส่วนในต่างประเทศเกิดจากการเปลี่ยนคู่ค้า ทำให้ยอดขายครึ่งปีแรกที่ผ่านมาทำได้ 496 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย และในอีก 4 เดือนสุดท้ายมองว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจัดสรรงบประมาณของภาครัฐออกมา รวมถึงแคมเปญสะสมแสตมป์ของทางเซเว่นฯ จะช่วยทำให้ภาพรวมรายได้ของบริษัทสามารถทรงตัวได้เท่าปีก่อนที่ปิดยอดขายไป 1,003 ล้านบาท มาจากรายได้ในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20%
นายชัชชวีกล่าวต่อว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัทมีรายได้เติบโตน้อยที่สุดหรือไม่โตเลย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจทำให้กลุ่มลูกค้าหลักอย่างลูกค้าระดับแมสใช้จ่ายน้อยลง เห็นได้จากกลุ่มเครื่องดื่มปีนี้ทรงตัว รวมถึงยอดการซื้อเครื่องดื่มในโถกดในร้านเซเว่นฯ ก็มียอดขายเฉลี่ยลดลงด้วย ส่งผลให้บริษัทต้องมีการปรับแผนการบริหารจัดการ ควบคุมต้นทุน ใช้งบการตลาดอย่างระมัดระวังและลดลงตามสภาพรายได้ที่เข้ามา
ที่สำคัญ ปีนี้ยังชะลอแผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ออกไปอีก 2 โครงการ ซึ่งเป็นสินค้าประเภทเครื่องดื่มที่มีทั้งจะจำหน่ายในไทยและต่างประเทศ รวมถึงชะงักแผนนำแบรนด์สวัสดีเข้าไปจำหน่ายในจีนออกไปก่อน 1-2 ปี จากปัญหาของการหาดิสทริบิวเตอร์และเรื่องของกฎหมายข้อบังคับต่างๆ
ดังนั้น ช่วงปลายปีนี้จะนำแบรนด์สวัสดีเข้าไปจำหน่ายในเซเว่นฯ แทน โดยเฉพาะในสาขาที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่ชื่นชอบสินค้าดังกล่าวมาก จากปัจจุบันมีจำหน่ายอยู่แล้วที่คิงเพาเวอร์ และสยามเจมส์