“พาณิชย์” เตรียมชง นบข.พิจารณาหลักเกณฑ์-วิธีการขายข้าว

“พาณิชย์” เตรียมเสนอ นบข.พิจารณาปรับหลักเกณฑ์การประมูลข้าวใหม่ หลังการกำหนดราคาขั้นต่ำ เป็นการชี้นำตลาดในทางลง พร้อมขออนุมัติวิธีขายข้าวเกรดซี ข้าวเสื่อม 5.8 ล้านตัน รวมถึงข้าวเกรดพี เอ บี ที่มีเหลือยู่ 7.5 ล้านตัน ส่วนการเปิดประมูลข้าวอีก 7.32 แสนตัน เชื่อเอกชนแข่งประมูลแน่

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้คณะกรรมการโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมในวันที่ 9 ก.ย. 2558 พิจารณาปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การเปิดประมูลข้าวใหม่ ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไร ขอให้ นบข.เห็นชอบก่อนจะชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด

“ที่ต้องปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการเปิดประมูลข้าวใหม่ เนื่องจากการประมูลที่ผ่านมามีปัญหาหลายเรื่อง เช่น ข้าวบางชนิดไม่มีราคาตลาดที่ใช้อ้างอิง และการกำหนดราคาขั้นต่ำ (ฟลอร์ไพรซ์) ก็มีปัญหาในเรื่องของการชี้นำราคาตลาดในทางลง รวมถึงมีการหักค่าเสื่อมที่มากขึ้น เนื่องจากข้าวเก็บไว้นาน จึงต้องปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ให้เหมาะสม”

นอกจากนี้ จะเสนอให้ นบข.พิจารณาแนวทางการระบายข้าวเกรดซีและข้าวเสื่อมสภาพปริมาณ 5.8 ล้านตันว่าจะระบายแบบยกคลังหรือคัดแยกขาย โดยจะนำผลสรุปจากการลงพื้นตรวจโกดังและทำการคัดแยกข้าวว่ามีค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง เปรียบเทียบการขายแบบยกคลังประกอบการพิจารณา

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 3 ก.ย.นี้จะลงพื้นที่ไปดูโกดังข้าวที่ จ.นครปฐม ซึ่งโกดังนี้จะมีความยากในการเก็บตัวอย่างมากกว่าโกดังข้าวที่คลองสามวารอบที่ผ่านมา เพราะมีปริมาณข้าวจำนวนมาก ทำให้การคัดแยกเป็นไปอย่างลำบาก

นางดวงพรกล่าวว่า สำหรับข้าวเกรดพี เอ บี ที่มีเหลืออยู่ประมาณ 7.5 ล้านตัน ส่วนใหญ่ปนกับเกรดซี ก็จะเสนอ นบข.ให้พิจารณาด้วยว่าจะใช้วิธีการขายในรูปแบบใด เพราะข้าวที่เหลืออยู่มีความซับซ้อนมากขึ้น มีชนิดข้าวปนกันอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งคงจะมีการเปิดระบายต่อเนื่องโดยดูตามความเหมาะสมของตลาด

ส่วนการเปิดประมูลข้าวสต๊อกรัฐบาลครั้งที่ 6/2558 ปริมาณ 7.32 แสนตัน มีมูลค่าตามราคาฟลอร์ไพรซ์ 3,404 ล้านบาท แบ่งเป็นชนิดข้าว 10 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 10% ข้าวเหนียว 10% ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 25% เลิศ ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปลายข้าวขาวเอวันเลิศ ข้าวปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมจังหวัด ทั้งสิ้น 87 คลัง 25 จังหวัด ทั้งในคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) โดยจะให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติประมูลข้าวในวันที่ 7 ก.ย. และวันที่ 8 ก.ย.จะประกาศผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ และภายในวันเดียวกันก็จะให้ยื่นซองเสนอราคา คาดว่าจะมีผู้ที่สนใจที่จะเข้าร่วมประมูลเป็นจำนวนมาก เนื่องจากขณะนี้ผลผลิตข้าวยังไม่ออก

อนึ่ง ผลการประมูลข้าวของรัฐบาลชุดนี้ รวม 9 ครั้งที่ผ่านมา สามารถอนุมัติขายได้ 4.3 ล้านตัน มูลค่า 4.07 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับการจ่ายข้าวในสต๊อกรัฐบาลเป็นค่าปรับปรุงข้าวให้กับเอกชน จะทำให้ระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลออกไปได้แล้วรวม 4.46 ล้านตัน มูลค่า 4.08 หมื่นล้านบาท