อคส.หวั่นรัฐเจ๊งซื้อน้ำมันปาล์มดิบหลังราคาตลาดโลกตกวูบ ชงพิจารณาปรับแผนช่วยเหลือชาวสวนใหม่

อคส.เตรียมชงอนุกรรมการด้านการตลาดปาล์มน้ำมันตัดสินใจรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 26.20 บาท/กก.ต่อหรือไม่ หลังราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดโลกดิ่งเหลือ 15.45 บาท/กก. คาดรับซื้อ 1 แสนตันทำขาดทุน 110 ล้านบาท ระบุหากไม่ซื้อจะเสนอให้ใช้วิธีการอื่นชดเชยแทนเพื่อดึงราคาผลปาล์ม ด้าน “อภิรดี” นัดประชุมด่วน พร้อมสั่งลงพื้นที่หาสาเหตุราคาตก ขณะที่เกษตรกรขู่ชุมนุมหลังขายผลปาล์มไม่ได้ราคาตามที่รัฐบาลกำหนด

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) เตรียมเสนอปัญหาการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบตามมติของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่ให้รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในราคา 26.20 บาท/กิโลกรัม (กก.) จากโรงสกัดที่เข้าร่วมโครงการซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกรในราคา 4.20 บาท/กก. ในปริมาณ 1 แสนตัน ให้คณะอนุกรรมการด้านการตลาดปาล์มน้ำมันที่มี รมว.พาณิชย์เป็นประธานพิจารณาว่าจะดำเนินการตามแนวทางรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบดังกล่าวต่อไปหรือไม่ เพราะขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก โดยเฉพาะราคาน้ำมันปาล์มดิบของไทยเมื่อเทียบกับตลาดโลก

“ตอนที่ขออนุมัติ กนป.ช่วงเดือน มิ.ย. ราคาน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซียอยู่ที่ 22-23 บาท/กก. ห่างจากราคารับซื้อที่กำหนดไว้ 26.20 บาท/กก. แค่ 2-3 บาทเท่านั้น แต่ล่าสุดน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซียลดต่ำลงมาก เป็นผลจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวลดลง และค่าเงินริงกิตมาเลเซียอ่อนค่ายิ่งทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบต่ำลงไปอีก ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ต้องพิจารณาว่าจะเดินหน้าโครงการต่อ แต่ต้องยอมรับผลขาดทุนจากส่วนต่างของตลาดโลกที่เกิดขึ้น หรือจะหาแนวทางช่วยเหลืออื่น เช่น จ่ายเงินชดเชยทางตรงให้กับโรงสกัดที่เข้าร่วมโครงการและซื้อผลปาล์มดิบมาแล้ว โดยเมื่อได้ข้อสรุปจะนำเสนอ กนป.พิจารณาอีกครั้ง” รายงานข่าวระบุ

ทั้งนี้ หากยืนยันที่จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในราคา 26.20 บาท/กก. ตามมติ กนป. ปริมาณ 1 แสนตัน คาดว่ารัฐบาลจะขาดทุนจากการดำเนินการดังกล่าว 110 ล้านบาท เนื่องจากขาดทุนส่วนต่างจากราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงเหลือ 15.45 บาท/กก. ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบรับซื้อของไทยอยู่ที่ 26.20 บาท/กก. หรือขาดทุนส่วนต่างจากราคาตลาดโลก 10-11 บาท/กก. ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการฝากเก็บน้ำมันปาล์มดิบที่มีต้นทุนอยู่ที่ 260 บาท/ตัน/เดือน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อคส.ยังไม่ได้มีการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเข้ามาเก็บสต๊อกไว้ เพราะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่งรับรองทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มใหม่แล้วเสร็จ หากมติอนุกรรมการฯ ให้ดำเนินการต่อก็สามารถรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบตามโครงการช่วยเหลือได้ทันที

รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 1 ก.ย.นี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะเรียกประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันทั้งระบบ โดยมีตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์ ตัวแทนเกษตรกร โรงสกัด และโรงกลั่น เข้าร่วมประชุม เพื่อหาแนวทางแก้ไขสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มพร้อมกับประเมินผลผลิตปาล์มน้ำมันใหม่ทั้งหมด

ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จะเรียกประชุมคณะอนุกรรมการด้านการตลาดปาล์มน้ำมัน เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน หลังจากที่สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในไปตรวจสอบการรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกรของโรงงานสกัดและลานเทว่าเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) หรือไม่ หลังจากได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรว่าการรับซื้อไม่เป็นไปตามราคาแนะนำที่กำหนด รวมทั้งจะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ และขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หลังจากถูกโรงงานสกัดและลานเทไม่รับซื้อผลปาล์มตามราคาประกาศของ กกร. ที่ 4.20 บาท/กก. โดยให้เวลา 15 วัน หากไม่ได้รับการแก้ไข จะนัดชุมนุมต่อไป