ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องการท่องเที่ยวร่วมระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุระเบิดราชประสงค์ เพิ่มเงินให้ผู้เสียชีวิตเป็น 6 แสนบาท พร้อมจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง รวมถึงจัดการค่าใช้จ่ายให้ญาติผู้ประสบเหตุที่เดินทางเข้าประเทศไทย นายกสมาคมโรงแรมไทยเผย สถานการณ์ยกเลิกและเลื่อนการเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มลดลงแล้ว วอนทุกฝ่ายหยุดโหมกระพือ “ข่าวลือ” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติ
นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดกลางสี่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา สมาคมโรงแรมไทย ร่วมด้วย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) และสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) ตลอดจนผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวได้ร่วมหารือกับ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสบเหตุจนต้องเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
ตามที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติผู้เสียชีวิตรายละ 3 แสนบาท และผู้ได้รับบาดเจ็บรายละ 1 แสนบาทนั้น ในเบื้องต้นผู้ประกอบการภาคเอกชนเห็นว่าจะร่วมกันระดมทุนให้ความช่วยเหลือเพิ่ม โดยมอบเงินช่วยเหลือ 6 แสนบาทให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บหากมีค่ารักษาพยาบาลเกิน 1 แสนบาทจะได้รับความช่วยเหลือด้านค่ารักษาพยาบาลตามจริงทั้งหมด
“ขณะเดียวกัน ในส่วนของญาติผู้ประสบเหตุที่ต้องเดินทางมาประเทศไทยในการเยี่ยม หรือรับศพ ภาคเอกชนยังยินดีให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆ ตลอดที่พำนักในประเทศไทย ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหารเช้า ค่าเดินทางในการติดต่อกับสถานที่ราชการ และอื่นๆ ตามความเหมาะสม เพื่อเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบของประเทศไทยและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ชาวต่างชาติ”
นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นเพียงผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทยเพียงระยะสั้นเท่านั้น ดังจะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติมีการยกเลิกและเลื่อนการเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 2-3 วันแรกที่เกิดเหตุเท่านั้นที่เลื่อน หรือยกเลิกการเดินทางระยะสั้นหลังจากวันที่ 17 ส.ค. 58 ประมาณ 3-7 วันที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เพราะเริ่มมีการยืนยันกำหนดการเดินทางและเข้าพักตามเดิมแล้ว โดยไม่มีการเลื่อน หรือยกเลิกแต่อย่างใด
“สิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันคือการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเรื่องการงดเผยแพร่ข่าวลือด้านลบและข้อมูลข่าวสารที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ภาครัฐก็มีการดำเนินงานสืบสวนและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและต่อเนื่องมากขึ้น จึงคาดว่าในสัปดาห์นี้ประเทศต่างๆ ทั้ง 23 ประเทศที่มีการประกาศเตือนประชาชนเรื่องการเดินทางมาประเทศไทยจะเริ่มทยอยลดระดับความรุนแรงและยกเลิกคำสั่ง”
นายสุรพงษ์กล่าวในตอนท้ายว่า ตั้งแต่ปี 2552-2556 ภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีการขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยปีละประมาณ 17-18% ขณะที่มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 25% ยกเว้นปี 2557 ที่ติดลบประมาณ 4% เนื่องจากได้รับผลกระทบทางการเมืองต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2556 ขณะที่ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2558 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 25-26% เมื่อเทียบกับปี 2556
นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดกลางสี่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา สมาคมโรงแรมไทย ร่วมด้วย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) และสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) ตลอดจนผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวได้ร่วมหารือกับ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสบเหตุจนต้องเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
ตามที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติผู้เสียชีวิตรายละ 3 แสนบาท และผู้ได้รับบาดเจ็บรายละ 1 แสนบาทนั้น ในเบื้องต้นผู้ประกอบการภาคเอกชนเห็นว่าจะร่วมกันระดมทุนให้ความช่วยเหลือเพิ่ม โดยมอบเงินช่วยเหลือ 6 แสนบาทให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บหากมีค่ารักษาพยาบาลเกิน 1 แสนบาทจะได้รับความช่วยเหลือด้านค่ารักษาพยาบาลตามจริงทั้งหมด
“ขณะเดียวกัน ในส่วนของญาติผู้ประสบเหตุที่ต้องเดินทางมาประเทศไทยในการเยี่ยม หรือรับศพ ภาคเอกชนยังยินดีให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆ ตลอดที่พำนักในประเทศไทย ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหารเช้า ค่าเดินทางในการติดต่อกับสถานที่ราชการ และอื่นๆ ตามความเหมาะสม เพื่อเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบของประเทศไทยและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ชาวต่างชาติ”
นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นเพียงผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทยเพียงระยะสั้นเท่านั้น ดังจะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติมีการยกเลิกและเลื่อนการเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 2-3 วันแรกที่เกิดเหตุเท่านั้นที่เลื่อน หรือยกเลิกการเดินทางระยะสั้นหลังจากวันที่ 17 ส.ค. 58 ประมาณ 3-7 วันที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เพราะเริ่มมีการยืนยันกำหนดการเดินทางและเข้าพักตามเดิมแล้ว โดยไม่มีการเลื่อน หรือยกเลิกแต่อย่างใด
“สิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันคือการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเรื่องการงดเผยแพร่ข่าวลือด้านลบและข้อมูลข่าวสารที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ภาครัฐก็มีการดำเนินงานสืบสวนและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและต่อเนื่องมากขึ้น จึงคาดว่าในสัปดาห์นี้ประเทศต่างๆ ทั้ง 23 ประเทศที่มีการประกาศเตือนประชาชนเรื่องการเดินทางมาประเทศไทยจะเริ่มทยอยลดระดับความรุนแรงและยกเลิกคำสั่ง”
นายสุรพงษ์กล่าวในตอนท้ายว่า ตั้งแต่ปี 2552-2556 ภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีการขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยปีละประมาณ 17-18% ขณะที่มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 25% ยกเว้นปี 2557 ที่ติดลบประมาณ 4% เนื่องจากได้รับผลกระทบทางการเมืองต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2556 ขณะที่ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2558 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 25-26% เมื่อเทียบกับปี 2556