“ASTVผู้จัดการรายวัน - “เจ๊เล้ง” ทุ่มทุนสร้าง “คอมมูนิตีมอลล์” พร้อมขยายสาขาสุวรรณภูมิ บนพื้นที่ 14.5 ไร่ มูลค่า 1 พันล้านบาท หวังใช้เป็นศูนย์ค้าปลีก-ส่งขนาดใหญ่ พร้อมรองรับกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติ ก่อนเดินหน้าขยายตลาดสินค้าตัวเองภายใต้แบรนด์ “NYLA”
“เจ๊เล้ง” นางอารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล ผู้นำด้านการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าจากต่างประเทศภายใต้ชื่อร้าน “เจ้เล้ง” เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเตรียมแผนลงทุนคอมมูนิตีมอลล์ บนพื้นที่ประมาณ 14.5 ไร่ ย่านลาดกระบัง ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมขยายสาขาร้านเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่ง โดยใช้งบลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างประมาณปลายปี 2559 และเปิดให้บริการได้ประมาณกลางปี 2560 ก่อนใช้เวลาคืนทุนภายใน 3 ปี
ร้าน “เจ้เล้ง” สาขาสุวรรณภูมิจะมีลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว ขนาดความกว้าง 60 เมตร ยาว 585 เมตร บนพื้นที่ 1 หมื่นตารางเมตร หรือมีขนาดใหญ่กว่าสาขาดอนเมืองถึง 4 เท่า โดยตั้งเป้าให้เป็นแหล่งค้าส่งและค้าปลีกขนาดใหญ่ เนื่องจากมีความคล่องตัวในการกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ พร้อมกันนั้นยังต้องการใช้เป็นสาขาสำหรับรองรับกรุ๊ปทัวร์จากประเทศต่างๆ ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถทำตลาดในส่วนนี้ได้เนื่องจากติดปัญหาเรื่องที่จอดรถ
ปัจจุบันร้าน “เจ้เล้ง” เปลี่ยนโครงสร้างสินค้านำเข้าจากเดิมที่เน้นญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายใหม่หันมาจำหน่ายสินค้านำเข้าจากประเทศเหล่านี้มากขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีภาวะการแข่งขันที่สูง จึงได้หันมานำเข้าสินค้าจากกลุ่มประเทศยุโรป เช่น โครเอเชีย สเปน เยอรมนี โมร็อกโก และอื่นๆ ตลอดจนสหรัฐอเมริกา รวมกว่า 30 ประเทศ เนื่องจากมีคุณภาพและความหลากหลายมากกว่า
สำหรับสินค้าที่จำหน่ายภายในร้าน “เจ้เล้ง” มีประมาณ 1 หมื่นเอสเคยู ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ทั้งกลุ่มเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ความงาม เครื่องประดับ ของใช้ ขนมขบเคี้ยว ตลอดจนสินค้าออร์แกนิก สินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าเกี่ยวกับสรีระร่างกายตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า และอื่นๆ โดยเน้นจำหน่ายในประเทศ 80% และส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น พม่า กัมพูชา ลาว ประมาณ 20%
ในส่วนของตลาดในประเทศมีสัดส่วนขายปลีก 60% ขายส่ง 40% ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย 80% ต่างชาติ 20% โดยในช่วงวันธรรมดามีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายประมาณ 500 คน และเพิ่มเป็น 1 พันคนในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ แต่ละรายมีการซื้อสินค้าคนละประมาณ 2 พันบาทต่อครั้ง
“แต่ละปีจะไม่มีการตั้งเป้ายอดขายและงบประมาณการตลาดอย่างเป็นทางการ โดยจะใช้ช่องทางหลักในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์คือสื่อออนไลน์ เนื่องจากร้านเจ้เล้งมีฐานลูกค้าจำนวนมากและมีการบอกต่อในลักษณะปากต่อปาก ดังนั้นจึงจะยึดนโยบายหลักที่สำคัญคือ ความแปลกใหม่และความหลากหลายของสินค้าที่มีคุณภาพสูงโดยไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ดัง แต่สามารถจำหน่ายได้ในราคาไม่สูงมากนัก ทำให้ในระยะหลังๆ อาจมียอดขายไม่สูง แต่สามารถทำผลกำไรเพิ่มขึ้นได้ถึง 3-4 เท่า”
นางอารียฉัตรกล่าวในตอนท้ายด้วยว่า ร้าน “เจ๊เล้ง” ยังมีการจำหน่ายสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอาง เช่น ลิปสติก แปรงขัดหน้า และอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ของตัวเองในชื่อ “NYLA” มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยในปีแรกที่เริ่มต้นทำตลาดมีสินค้าเพียง 1 เอสเคยู สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 60-70 ล้านบาท แต่ปัจจุบันมีการขยายไลน์สินค้าเพิ่มเป็น 20-30 เอสเคยู โดยสินค้าทุกประเภทเป็นการผลิตในลักษณะ OEM จากประเทศต่างๆ ทั้งในเอเชียและยุโรปที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพให้แบรนด์ต่างๆ