ทอท.-กรมการบินพลเรือน ปรับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยยกระดับ 3 ขั้นสูงสุดทุกสนามบิน ด้าน บขส.-ร.ฟ.ท.สั่งเจ้าหน้าเพิ่มความเข้มข้นในการรักษาความปลอดภัยสถานีขนส่งและสถานีรถไฟตลอด 24 ชม.
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ในส่วนของ ทอท.ได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานทุกแห่งในกำกับดูแลทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานเชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขึ้นเป็นการยกระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด โดยจะมีการเพิ่มความถี่การตรวจพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น ขณะที่การออกใบอนุญาตเข้าพื้นที่แก่บุคคลภายนอกจะระงับไปก่อน (บัตร อน.) ส่วนการตรวจกระเป๋าสัมภาระต่างๆ ที่ผ่านมาเข้มงวดอยู่แล้ว
ทั้งนี้ การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยเป็นระดับสูงสุดนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสาร โดยขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมากกว่าเดิมในช่วงนี้ด้วย
นางปาริชาต คชรัตน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้ท่าอากาศยานภูมิภาคซึ่งอยู่ในสังกัดกรมการบินพลเรือน จำนวน 28 แห่ง ปรับระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับความเข้มงวดสูงสุด โดยกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดของการรักษาความปลอดภัยทุกรูปแบบ ดังนี้ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจอาวุธและวัตถุอันตราย เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจกระเป๋าผู้โดยสารทุกใบทั้งจากเครื่อง X-RAY และการตรวจค้นโดยตรงของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังจัดเจ้าหน้าที่ตรวจตราบริเวณอาคารที่พักผู้โดยสารและบริเวณท่าอากาศยานตลอด 24 ชั่วโมง จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตรวจตราผ่านกล้องวงจรปิดทั่วทั้งท่าอากาศยานเพื่อดูความเคลื่อนไหวโดยรวมตลอดเวลา รวมถึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารในพื้นที่เพื่อติดตามควบคุมสถานการณ์ความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ กรมการบินพลเรือนมีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกท่าอากาศยาน กรณีหากเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ รวมถึงยังได้ขอความร่วมมือผู้โดยสารและประชาชน หากพบเห็นสิ่งผิดปกติต้องสงสัย หรือพบสัมภาระที่ไม่ทราบเจ้าของ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ท่าอากาศยานทราบโดยด่วนเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ด้านนายนพรัตน์ การุณยะวนิช รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ได้กำชับให้ผู้บริหารพื้นที่สถานีขนส่งทุกแห่งในส่วนกลาง ทั้งสถานีหมอชิต, สายใต้ใหม่ (บรมราชชนนี), เอกมัย และรังสิต โดยขอให้ผู้บริหารพื้นที่เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งการตรวจกระเป๋าสัมภาระ การตรวจค้นต่างๆ โดยได้มีการประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเพิ่ม และกำหนดเป้าหมายให้การรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งให้มีการประชาสัมพันธ์สถานีขนส่งทุกแห่งขอความร่วมมือผู้โดยสารช่วยสังเกตและแจ้งเบาะแสหากพบสิ่งน่าสงสัย เพื่อเป็นการร่วมกันป้องปรามและระวังเหตุ
ขณะที่ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ร.ฟ.ท.ได้แจ้งคำสั่งไปสถานีรถไฟทั้งส่วนกลางและภูมิภาคทั้งหมดขอให้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งพื้นที่สถานีและการตรวจสัมภาระที่ไปกับขบวนรถ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟขอให้เข้มงวดตรวจตราและเสริมกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด