กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศใช้ช่องออนไลน์ผ่าน Thaitrade.com เจาะตลาดอาเซียนและอาเซียน+6 ช่วยปั๊มยอดส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs เผยได้ทำการเชื่อมโยงเว็บไชต์กับจีน อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ฮ่องกง เวียดนามแล้ว ตั้งเป้าดันไทยเป็นศูนย์กลางการค้าออนไลน์ในอาเซียนรับ AEC พร้อมปั้น SMEs เข้าสู่ค้าออนไลน์ให้มากขึ้น
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เพิ่มช่องทางการส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ตามนโยบาย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการให้สร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ SMEs โดยใช้ Thaitrade.com ซึ่งเป็นตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทย ช่วยขยายตลาดส่งออกให้แก่ SMEs ไทยผ่านการค้าขายออนไลน์ และยังเป็นการสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy)
“กรมฯ จะทำการเชื่อมช่องทางการค้าออนไลน์ของไทยกับกลุ่มอาเซียนและอาเซียน+6 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) โดยใช้ Thaitrade.com ทำการเชื่อมโยงกับเว็บที่จำหน่ายสินค้าออนไลน์ในประเทศเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อเข้าถึงสินค้าไทยได้ง่ายขึ้น และสร้างโอกาสในการส่งออกสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดอาเซียนและอาเซียน+6 ได้เพิ่มขึ้น” นางนันทวัลย์กล่าว
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ ผู้อำนวยการสำนักพาณิชย์ดิจิตอล กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมฯ ได้มุ่งขยายโอกาสและความร่วมมือทางการค้าออนไลน์ โดยใช้เว็บไซต์ Thaitrade.com เป็นตัวเปิดทางให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ของไทยในการทำตลาดการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งได้ทำการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของกรมฯ กับเว็บไซต์ของประเทศคู่ค้าที่จะเป็นตลาดการค้าออนไลน์ให้กับไทย ทั้งอาเซียนและอาเซียน+ 6 แล้ว ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ฮ่องกง เวียดนาม เป็นต้น
ทั้งนี้ ในส่วนของจีนได้จับมือเว็บไซต์ Alibaba เกาหลีใต้จับมือกับ Tradekorea.com อินเดียกับ Tradeindia.com เวียดนามกับ VietTrade เป็นต้น และกำลังอยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับอินโดนีเซียและมาเลเซียเพื่อขยายช่องทางการค้าออนไลน์ร่วมกัน
“ตั้งแต่เพิ่มความร่วมมือกัน มีผู้ประกอบการจากอาเซียนและอาเซียน+6 เข้าใช้เว็บไซต์ Thaitrade.com เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติตั้งแต่ 1 ต.ค. 2557 ถึง 30 มิ.ย. 2558 มีจำนวนถึง 4.77 แสนราย กลุ่มผู้ซื้อสำคัญมาจากเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บและเพิ่มยอดซื้อมากขึ้น จึงถือเป็นโอกาสของ SMEs ไทยที่จะใช้ช่องทางการค้าออนไลน์ในการขยายตลาด” นางลลิดากล่าว
นางลลิดากล่าวว่า กรมฯ ได้ตั้งเป้าที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการค้าออนไลน์ในอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยจะใช้ Thaitrade.com เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขยายการส่งออกให้แก่สินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าจาก SMEs ซึ่งกรมฯ มีแผนที่จะผลักดันให้ SMEs เข้ามาเป็นสมาชิกเว็บไซต์ให้มากขึ้น รวมทั้งการช่วยเหลือในการทำธุรกิจผ่านทางออนไลน์
“กรมฯ มีแผนที่จะสร้างผู้ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศรายใหม่ทางออนไลน์ ผ่านโครงการ New Young Online International Trader ซึ่งจะเข้าไปช่วยเหลือตั้งแต่การฝึกอบรมการทำธุรกิจออนไลน์ การซื้อขาย การถ่ายภาพ การแปลภาษา เพื่อให้ผู้ประกอบการของไทยมีความเข้มแข็งและเข้าสู่ระบบการค้าออนไลน์ได้เพิ่มขึ้น”
สำหรับการจัดกิจกรรมอื่นๆ กรมฯ มีแผนที่จะจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจในตลาดอาเซียน โดยจะนำคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาธุรกิจในประเทศเป้าหมาย เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม โดยเน้นกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ผลไม้ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น
ปัจจุบัน Thaitrade.com มีสมาชิกทั้งหมด 94,545 ราย เป็นสมาชิกผู้ซื้อ 78,789 ราย ผู้ขาย 15,756 ราย มีรายการสินค้ากว่า 2 แสนรายการ โดยมีมูลค่าการซื้อขายที่มีหลักฐาน 1,372 ล้านบาท
