ขสมก.เลื่อนเซ็นสัญญาซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ออกไปอีก 1 เดือน เหตุ “เบสท์รินกรุ๊ป” ร้องไปที่ กวพ.อ. ยังตั้งเป้าเซ็นสัญญากลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC ได้ใน 16 ก.ย. 58 มั่นใจกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้อง
นางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ขสมก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ล็อตแรกจำนวน 489 คันว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก. บอร์ด ขสมก.มีมติรับรองผลการประมูลจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คันแล้ว แต่เนื่องจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างหากมีการทำหนังสือแจ้งผลการประกวดราคาไปยังกลุ่มบริษัทกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC ที่มี บริษัท ช.ทวีดอลลาเซียนจำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำ ซึ่งเป็นผู้ชนะมูล และบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัดผู้ยื่นประมูลอีกราย เพื่อให้รับทราบแล้วแต่เนื่องจากมีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) ซึ่ง กวพ.อ.จะมีเวลาในการพิจารณาภายใน 30 วัน จึงคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้หลังจากได้รับทราบผลจาก กวพ.อ.
ทั้งนี้ ทางเบสท์รินกรุ๊ปได้อุทธรณ์ไปยัง กวพ.อ. ซึ่งในวันที่ 13 ส.ค.นี้ อนุกรรมการ กวพ.อ.จะพิจารณาในเบื้องต้นก่อนและคณะกรรมการ กวพ.อ.จะประชุมในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ดังนั้น คาดว่าการลงนามสัญญากับ กลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC ล่าช้าไปอีกประมาณ 1 เดือน โดยสามารถลงนามได้ในวันที่ 16 ก.ย. 2558 จากเดิมที่จะลงนามในวันที่ 17 ส.ค. โดยได้รายงานให้กระทรวงคมนาคมรับทราบแล้ว ส่วนร่างสัญญาซึ่งมี 2 ฉบับนั้น สัญญาจัดซื้ออัยการได้ตรวจร่างเสร็จแล้ว เหลือร่างสัญญาซ่อมบำรุงระยะเวลา 10 ปี คาดว่าอัยการจะตรวจสอบแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า ก่อนหน้านี้ ขสมก.ได้ประสาน กวพ.อ.ว่าจะสามารถลงนามสัญญาไปได้เลยหรือไม่ ซึ่ง กวพ.อ.แนะนำว่ากรณีมีการร้องเรียนควรชะลอการลงนามออกไปก่อน ส่วนทาง กวพ.อ.จะเร่งการพิจารณาให้เร็วที่สุด ส่วนกรณีที่เบสท์รินกรุ๊ปยื่นฟ้องศาลปกครองนั้น ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องและจำหน่ายคดีไปแล้ว ดังนั้นจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการ เหลือผลจาก กวพ.อ.เท่านั้น
“ขสมก.มีความมั่นใจในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างว่าได้ดำเนินการมาอย่างถูกต้องตามขั้นตอน จึงมั่นใจว่าจะสามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้ โดยรอผลการตรวจสอบจาก กวพ.อ.ก่อน” นางปราณีกล่าว