“BEAUTY” บินลัดฟ้าควง “บล.ฟิลลิป” ตะลุยโรดโชว์ “ลอนดอน-เอดินบะระ” พบกองทุน 7 แห่งกระแสตอบรับดีเกินคาด เชื่อมั่นธุรกิจเติบโต ขยายตัวอีกมากทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน คาดทั้งปีรายได้ทะลุ 1.7 พันล้านบาท เดินหน้าขยายสาขา Shop Brand เพิ่มตามเป้า
นายแพทย์ สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 30-31 ก.ค.ที่ผ่านมาบริษัทฯ ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้มีการไปนำเสนอข้อมูลบริษัทกับนักลงทุนและกองทุนต่างประเทศที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และเมืองเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนและกองทุนทั้ง 2 แห่งเป็นอย่างมาก โดยบริษัทได้เข้าร่วมการนำเสนอข้อมูลกับกองทุนที่กรุงลอนดอน จำนวน 6 กองทุน และที่เมืองเอดินบะระ สกอตแลนด์ 1 กองทุน
“ช่วงก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้รับการติดต่อจากนักลงทุนสถาบันต่างประเทศจำนวนมาก จึงได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ Decker & Co. เดินทางไปนำเสนอข้อมูล ซึ่งการเดินทางไปนำเสนอข้อมูลในครั้งนี้มีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก นักลงทุนให้ความสนใจต่อธุรกิจของบริษัทฯ อีกทั้งยังรู้จักผลิตภัณฑ์และแบรนด์ต่างๆ ของ BEAUTY เป็นอย่างดี โดยได้เน้นย้ำให้นักลงทุนสถาบันต่างๆ เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของธุรกิจที่ยั่งยืนของบริษัท” นายแพทย์ สุวินกล่าว
ด้าน นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจว่าธุรกิจเครื่องสำอางของคนไทยสามารถสร้างความโดดเด่นในเรื่องผลิตภัณฑ์ และแนวคิดการวางตำแหน่งทางการตลาดสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยข้อมูลที่ BEAUTY นำไปเสนอต่อนักลงทุนสถาบันต่างประเทศในครั้งนี้เน้นไปที่กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นสร้างความแตกต่าง และครอบคลุมทุกช่องทางการจัดจำหน่าย
“สำหรับแนวโน้มการเติบโตที่บริษัทฯ วางเป้าหมายให้อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี ศักยภาพในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน โดยในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 1.7 พันล้านบาท หรือมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากการมุ่งเน้นขยายสาขาของ Shop Brand ต่างๆ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบรับความต้องการของตลาด ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุนให้อยู่ระดับเหมาะสม เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ ให้อยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง” นายวิชา กล่าวในที่สุด
