เอปสันมั่นใจตลาดพรินเตอร์ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ตั้งเป้าการเติบโตทั้งธุรกิจไว้ที่ 15% ปีนี้ พร้อมรุกตลาดองค์กรเพิ่มมากขึ้นหลังเห็นแนวโน้มกลุ่มลูกค้าทั่วไปเริ่มชะลอตัว เตรียมงัดกลยุทธ์เด็ดครึ่งปีหลังรับมือการแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้นด้วยการลดค่าเครื่องลง 5% เพื่อขยายฐานลูกค้า และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่มากขึ้น
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้เศรษฐกิจโดยภาพรวมจะยังไม่ค่อยสดใสมากนัก แต่ไม่ได้กระทบธุรกิจในกลุ่มพรินเตอร์ เนื่องจากยังมีการเติบโตได้โดยไม่สะดุด และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะยังเติบโตเป็นอย่างดี ซึ่งการทำตลาดในครึ่งปีหลังเอปสันจะเน้นรุกตลาดองค์กรเพิ่มมากขึ้น โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมา (เริ่มต้นปีงบประมาณเดือน เม.ย.) เอปสันมีการเติบโตแล้ว 15% และมั่นใจว่า ตลาดทั้งปีจะสามารถสร้างการเติบทั้งธุรกิจได้ 15%
ปัจจุบัน เอปสันมีสินค้าแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรกเป็นผลิตภัณฑ์พรินเตอร์ทั่วไป กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มพรินเตอร์เชิงพาณิชย์ และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มโปรเจกเตอร์ โดยที่ผ่านมามีสัดส่วนการทำตลาดในกลุ่มลูกค้าทั่วไปประมาณ 45% และองค์กรธุรกิจ 55% ส่วนในปีนี้จะเพิ่มสัดส่วนในกลุ่มธุรกิจเป็น 60% และกลุ่มลูกค้าทั่วไปจะเหลือเพียง 40%
“สำหรับการแข่งขันตลาดช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่า จะรุนแรงมากขึ้น แต่เอปสันก็จะสามารถเติบโตได้แม้จะตลาดจะไม่ขยายตัวมากนัก โดยจะมีกลยุทธ์ในการเข้าไปชิงส่วนแบ่งของคู่แข่ง อย่างเช่น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของงาน ทั้งผู้ใช้งานที่เป็นผู้บริโภค และผู้ใช้งานที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง การขยายระยะเวลารับประกันสินค้าจาก 1 ปี เป็น 2 ปี รวมไปถึงการรุกตลาดที่หนักขึ้น”
นายยรรยง กล่าวว่า ล่าสุด เอปสันได้เปิดตัวสินค้ากลุ่มแอลซีรีส์เพิ่มอีก 6 รุ่น ซึ่งเน้นที่ความเร็วในการพิมพ์ ความคุ้มค่าในการพิมพ์ต่อแผ่นช่วยประหยัดได้ถึง 5% เพื่อขยายฐานลูกค้า โดยจะจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสนับสนุนการเปิดตัวแอลซีรีส์รุ่นใหม่ เช่น โรดโชว์ทั่วประเทศ ที่เน้นสร้างประสบการณ์การใช้งานจริง ทั้งด้านความเร็วในการพิมพ์ ฟังก์ชันการทำงานที่ครบครัน การสั่งพิมพ์งานผ่านอุปกรณ์ไร้สาย ความทนทาน รวมไปถึงความคุ้มค่าในการลงทุนของแอลซีรีส์ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ เอปสันยังมีแผนจัดโปรโมชันพิเศษผ่านแคมเปญครบรอบ 25 ปีเอปสัน ประเทศไทย
การเปิดตัวดังกล่าวตั้งเป้าว่า ยอดขายทั้งปีของผลิตภัณฑ์กลุ่มแอลซีรีส์จะโตถึง 20-25% ในส่วนของมูลค่ายอดขาย เพราะการลดราคาลงมาจะทำให้ลูกค้าที่ชอบความคุ้มค่าหันมามองมากขึ้น และตัดสินใจในการซื้อได้ง่ายขึ้นและถือเป็นการขยายฐานลูกค้าไปในตัว ทั้งนี้ หลังจากที่เอปสันได้เปิดตัวแอลซีรีส์ พรินเตอร์แทงก์แท้ในไทยเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้ค่อนข้างดีมาก ผู้ใช้นิยมเครื่องที่มีราคาสูง และใช้หมึกราคาถูก ดังนั้น การพัฒนาสินค้าให้สอดรับกันเป็นสิ่งจำเป็น
โดยที่ผ่านมา เอปสันนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ทั้งหมด 14 รุ่น มียอดขายถึง 2 ล้านเครื่อง ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดของสินค้าประเภทนี้ในไทยถึง 36% เป็นอันดับ 1 ในตลาด และในปี 2558 นี้ คาดว่าจะมีสัดส่วนถึง 38-40%
สำหรับตลาดพรินเตอร์ในไทยนั้นในปี 2557 ที่ผ่านมา เอปสันสามารถเป็นอันดับ 1 ของตลาดในไทยได้ทั้งพรินเตอร์อิงก์เจ็ตซิงเกิลฟังก์ชันที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 49% และมัลติฟังก์ชัน 33% ทั้งนี้ สำหรับตลาดรวมเครื่องพรินเตอร์แบบความจุสูงปริมาณพิมพ์ต่อแผ่นมาก (ไฮยิวพรินเตอร์) ของไทยนั้นขณะนี้มีสัดส่วนอยู่ที่ 60-70% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 75% ของตลาดในปีนี้ ส่วนที่เหลือเป็นแบบหมึกพิมพ์ทั่วไป สำหรับมูลค่ารวมของเครื่องอิงก์เจ็ตพรินเตอร์ในตลาดปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท ส่วนปีนี้เชื่อว่า มูลค่าตลาดมีประมาณ 1,800 ล้านบาท
Company Related Link :
เอปสัน