“อาเจ” หนึ่งในบริษัทผลิตเครื่องดื่มข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุด ปัจจุบันครอบคลุมในกว่า 20 ประเทศในแถบละตินอเมริกา เอเชีย และแอฟริกา โดยมีแบรนด์หลักคือ น้ำอัดลม “BIG” (บิ๊ก) ที่ขายออกไปยัง 3 ทวีปจนประสบความสำเร็จตลอดมา
จากการจัดอันดับของ Kantar Worldpanel (KWP) ประจำปี 2558 น้ำอัดลม “บิ๊ก” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “1 ใน 10 แบรนด์น้ำอัดลม” ที่มีคนเลือกซื้อมากที่สุดในแถบละตินอเมริกา และขึ้นแท่นอันดับ 2 ในฐานะแบรนด์ที่ผู้บริโภคเลือกดื่มบ่อยที่สุด ส่วน “บิ๊ก” รสโคล่าถือได้ว่าเป็นแบรนด์ยอดนิยมสูงสุดอันดับหนึ่งในบรรดากลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
“อาเจ” จึงส่ง “บิ๊ก โคล่า” เดินหน้าขยายธุรกิจทั่วโลกไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคเอเชียซึ่งมีโอกาสในการเติบโตสูงด้วยจำนวนประชากรรุ่นใหม่จำนวนมากที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีความต้องการสิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่าง โดยปัจจุบันคนรุ่นใหม่กว่า 100 ล้านคนจากประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย รวมไปถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชียต่างก็หันมาบริโภคเครื่องดื่ม “บิ๊ก โคล่า” กันแล้ว!
“อาเจ” สร้างแบรนด์น้ำอัดลมให้ยิ่งใหญ่ในตลาดเอเชียได้อย่างไร? และทำไมบริษัทที่มีต้นกำเนิดมาจากแถบเทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู จึงสามารถเข้ามาแข่งขันในธุรกิจแบรนด์สินค้าข้ามชาติได้?
“สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงโลกใบใหม่ที่เราอาศัยอยู่ในทุกวันนี้ ในตลาดเกิดใหม่นั้นร้อยละ 70 ของคนรุ่นใหม่ต้องการสิ่งใหม่และแตกต่าง เราเข้าใจถึงความต้องการของคนรุ่นใหม่ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่นี้ดีกว่าแบรนด์ใหญ่อื่นๆ ที่อยู่ในธุรกิจนี้มาถึง 70 หรือ 100 ปีเสียอีก” มร.ฆอร์เก้ โลเปซ ดอริกา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการสื่อสารและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท อาเจ กรุ๊ป กล่าว
“โลกเปลี่ยนไปแล้ว และตอนนี้ก็เป็นยุคของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ของคนที่คิดใหญ่และฝันใหญ่ ผมเชื่อว่าเราไม่ได้ขายแค่เครื่องดื่ม แต่เราให้ประสบการณ์และเปิดโอกาสให้เหล่าแฟนบิ๊กได้ “คิดให้ใหญ่ ไปให้สุด” และสานต่อความฝันให้เป็นจริง” มร.ฆอร์เก้กล่าวเสริม
“อาเจ” เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี 2549 โดยได้เริ่มเข้าสู่ตลาดนอกละตินอเมริกาเป็นครั้งแรก และต่อมาในปี 2554 ก็เป็นปีแรกที่เข้ามาสู่ตลาดในประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และอินเดียอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับประเทศอินโดนีเซียและไทยคือความสำเร็จที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก เพราะภายในระยะเวลาเพียงแค่ 4 ปีที่ดำเนินการในตลาดอินโดนีเซียนั้น “บิ๊ก โคล่า” ได้กลายเป็นแบรนด์น้ำอัดลมยอดฮิตในอินโดนีเซีย (อ้างอิงจากผลสำรวจ Roy Morgan ปี 2558) และจัดว่าเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับการบริโภคมากที่สุดของคนอินโดนีเซียจำนวน 250 ล้านคน
ส่วนในประเทศไทยนั้นถึงแม้จะเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดน้ำอัดลม แต่ “บิ๊ก โคล่า” ก็ยังเป็นแบรนด์น้ำอัดลมที่ได้รับความนิยมติดอันดับ 3 ในตลาดเครื่องดื่มจำพวกโคล่าอีกด้วย
“อาเจ” มุ่งมั่นในด้าน “ความเท่าเทียมกันในด้านการบริโภค” ในตลาดเกิดใหม่ซึ่งได้ขยายเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่และนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพสูงในราคายุติธรรม ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมาแล้วก็คือการเปิดตัวเครื่องดื่ม “บิ๊ก เฟรช” ในประเทศไทย ซึ่งเป็นน้ำอัดลมรูปแบบใหม่ที่ผสมน้ำผลไม้และมีปริมาณน้ำตาลน้อยลง ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ดัดแปลงให้เข้ากันได้อย่างลงตัวและเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่ต้องการในกลุ่มผู้บริโภคอีกด้วย
นี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไม “อาเจ” ถึงสามารถสร้างแบรนด์อันยิ่งใหญ่ได้ในภูมิภาคเอเชีย!
“อาเจ” กำลังดำเนินการขยายธุรกิจในด้านนวัตกรรมใหม่สำหรับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและแนวโน้มตลาดด้วยรูปแบบและรสชาติที่เหมาะกับตลาดในแต่ละประเทศที่มีวางจำหน่าย
นวัตกรรมระดับโลกจึงเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ “อาเจ” ที่เดินหน้าผลิตเครื่องดื่มที่มีคุณภาพออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง