กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล เผยสรุปผลวิจัยและจัดอันดับ “แบรนด์ที่มีการตัดสินใจเลือกซื้อสูงสุด” ทั้งระดับโลกและในไทย “Brand Footprint Report” และ Brand Footprint Global Ranking Top 50” เป็นรายแรกและรายเดียวในโลกโคคา โคลา ครองแชมป์แบรนด์ยอดฮิตระดับโลก ตามด้วยคอลเกต และแม็กกี้ ส่วนตลาดไทย ดัชมิลล์ คว้าเรตติ้งสถิติรวมถูกเลือกซื้อสูงสุด ส่วน เนสกาแฟ, มาม่า, คอลเกต, บรีส, ดัชมิลล์ คว้าท็อปแบรนด์ แยกตามกลุ่มสินค้า FMCG
รายงานชุดพิเศษ “Brand Footprint Report” นี้สรุปผลวิจัยและจัดอันดับแบรนด์ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสูงสุด จัดทำโดย บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล จำกัด (KWP) ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึก ที่เน้นหลักการวิจัยแบบคอนซูเมอร์ พาแนล (Consumer Panel) เป็นการใช้ฐานกลุ่มผู้บริโภคตัวอย่างขนาดใหญ่ในลักษณะ “ครัวเรือน” ทำการเก็บรวบรวมการจับจ่ายที่ทำการตัดสินใจซื้อจริง นำมาวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษและเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัท ซึ่งประมวลผลด้วยดัชนี CRP หรือ (Consumer Reach Point) ที่ให้ความแม่นยำที่สุด
นอกจากนี้ กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล หรือ KWP ยังนำเสนอการจัดอันดับในรูปแบบใหม่ภายใต้โครงการ “Brand Footprint Global Ranking Top 50” นับเป็นผู้ริเริ่มทำการศึกษาและจัดอันดับแบรนด์ที่ถูกเลือกซื้อสูงสุดทั้งระดับโลกและระดับประเทศเป็นรายแรกและรายเดียวในโลก พร้อมรางวัลเชิดชูเกียรติ KWP Brand Footprint Recognition เพื่อประโยชน์ของวงการสินค้า FMCG และวงการค้าปลีก สมกับความเป็นผู้นำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึกโดยเฉพาะ
โดยบริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (KWP) เป็นบริษัทในเครือ WPP สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยเครือ WPP เป็นเอเยนซียักษ์ใหญ่ระดับโลก มีบริษัทในเครือมากกว่า 100 บริษัทกระจายอยู่ทุกทวีป ที่ล้วนเป็นบริษัทผู้นำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่างๆ ทั้งสิ้น เช่น เอเยนซีผู้นำระดับโลกด้านโฆษณา, ด้านสื่อสารการตลาด, ด้านวางแผน และบริหารสื่อ, ด้านวิจัยการตลาดและผู้บริโภค, ด้านประชาสัมพันธ์ ตลอดจนด้านอื่นๆ ที่อยู่ในหลากหลายธุรกิจ เช่น Ogilvy, JWT, Grey, Dentsu Y&R, Mindshare, Hill&Knowlton ฯลฯ
นายฮาร์เวิร์ด ชาง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล
(ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ได้สรุปผลวิจัยและจัดอันดับแบรนด์ที่มีการตัดสินใจเลือกซื้อสูงสุดประจำปี 2557 หรือ 2014 Brand Footprint Report” และ Brand Footprint Global Ranking Top 50” พร้อมมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ KWP Brand Footprint Recognition ให้แก่เจ้าของแบรนด์ที่ชนะใจผู้บริโภคเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในแต่ละกลุ่มประเภทสินค้าที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุดในประเทศไทยเป็นปีแรก
โดยทำการสรุปเป็นอันดับแบรนด์ที่เป็นภาพรวมของทุกกลุ่มสินค้า และอันดับแบรนด์ที่แยกตามกลุ่มสินค้าถึง 4 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ กลุ่มสินค้าเครื่องดื่ม (Beverage), กลุ่มสินค้าอาหาร (Food), กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม (Health and Beauty), กลุ่มสินค้าในครัวเรือน และลูกน้อย (Home Care)
ด้วยการสำรวจแบรนด์ชั้นนำกว่า 11,000 แบรนด์ สำหรับสินค้า FMCG 200 กลุ่มใน 35 ประเทศ กับจำนวนการตัดสินใจซื้อถึง 250,000 ครั้ง
นายฮาร์เวิร์ด ชาง เปิดเผยว่า รายงานข้อมูลวิจัยชุดพิเศษ “Brand Footprint Report” และ “Brand Footprint Global Ranking Top 50” นี้ได้จัดทำขึ้นเป็นรายปี และปีนี้เป็นปีที่ 3 ซึ่งได้ใช้ฐานการทำวิจัยที่ใหญ่ที่สุดเพื่อให้ได้ข้อมูลและผลการจัดอันดับแบรนด์ที่แม่นยำที่สุด โดยทำการวิเคราะห์แบรนด์ที่น่าสนใจกว่า 11,000 แบรนด์ทั่วโลก
ในจำนวนนี้เป็นสินค้า FMCG ถึง 200 กลุ่ม ทำการวิจัยรูปแบบ “Consumer panel” ที่ใช้ฐานกลุ่มตัวอย่างกว่า 412,000 ครัวเรือน ครอบคลุม 4 ทวีป รวม 35 ประเทศทั่วโลก และเก็บรวบรวมการตัดสินใจเลือกซื้อแบรนด์สินค้าถึง 250,000 การตัดสินใจซื้อของเหล่านักชอปสินค้า FMCG (Shoppers Decisions) สรุปผลวิจัยและข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคจึงมีความแม่นยำที่สุด และเป็นประโยชน์ยิ่งเพื่อนักการตลาดในประเทศไทยที่สนใจข้อมูลบทวิเคราะห์ รวมถึงข่าวสารต่างๆ รวมถึงเป็นรายงานที่บอกถึงแนวโน้มการเติบโตและถดถอยของแบรนด์ ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นนัยสำคัญ เพื่อการปรับตัวได้อย่างทันท่วงทีในตลาดสินค้าอุปโภค บริโภคที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง
โดยทำการสรุปเป็นอันดับแบรนด์ที่เป็นภาพรวมของทุกกลุ่มสินค้า และแบรนด์ฮิตที่ถูกเลือกซื้อแยกตามกลุ่มประเภทสินค้าทั้งในระดับโลก และอันดับในประเทศไทย ยิ่งกว่านี้ยังมีการสรุปแนวโน้มแบรนด์ดาวรุ่งที่เน้นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการบริโภคสูง FMCG (Fast Moving Consumer Goods) ประกอบด้วย กลุ่มครัวเรือน และลูกน้อย กลุ่มเพอร์ซัลนัลแคร์-Personal Care, กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม, กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม ฯลฯ โดยทำการสรุปเป็นอันดับแบรนด์ที่เป็นภาพรวมของทุกกลุ่มสินค้า
******Brand Footprint Global Ranking Top 50-ผลการจัดอันดับในระดับโลก และประเทศ
ผลการจัดอันดับในระดับโลกสำหรับภาพรวมของทุกกลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค FMCG แบรนด์ที่ติดอันดับที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุด 10 อันดับ เรียงตามลำดับ คือ โคคา-โคลา, คอลเกต, แม็กกี้, ไลฟ์บอย, เนสกาแฟ, เป๊ปซี่, เลย์, คนอร์, โดฟ และ Tide
สำหรับผลการจัดอันดับในประเทศไทย-แบรนด์ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสูงสุด อันดับภาพรวมของทุกกลุ่มสินค้า FMCG คือ ดัชมิลล์
ส่วนอันดับแบรนด์ที่มีอัตราการถูกซื้อสูงสุดอันดับ 1-3 แยกตามกลุ่มสินค้า มีดังนี้
1. กลุ่มเครื่องดื่ม คือ เนสกาแฟ, แลคตาซอย, ดัชมิลล์
2. กลุ่มอาหาร คือ มาม่า, ดัชมิลล์, เลย์
3. กลุ่มสุขภาพและความงาม คือ คอลเกต, ซันไลท์, คอมฟอร์ท
4. กลุ่มสินค้าในครัวเรือน คือ บรีส, ซันไลท์, คอมฟอร์ท
***** ชูกฎเหล็ก 4 ข้อ กับข้อมูลวิจัยสรุปวิเคราะห์ชุด Brand Footprint Report
จากการทำวิจัยชุด “Brand Footprint Report” พบว่า ข้อเท็จจริงพื้นฐานที่ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโต หรือถดถอยของแบรนด์สินค้าในกลุ่ม FMCG ก็คือ แบรนด์นั้นๆ ต้องเป็นแบรนด์ที่ทรงพลังสามารถดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อ หรืออีกนัยหนึ่งต้องเป็นแบรนด์ที่มีความสามารถในการแข่งขันที่เหนือกว่า (Competitive และครบองค์ประกอบเพื่อการเจาะตลาด (Penetration proposition) ซึ่งสามารถยืนยันได้จากผลสำรวจการตัดสินใจเลือกซื้อแบรนด์สินค้าของแต่ละครัวเรือน
ตลอดระยะเวลา1 ปี ข้อมูลเชิงลึกที่ได้นี้ถือเป็นปัจจัยลับสุดยอดที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการสร้างแบรนด์ในกลุ่ม FMCG อย่างแท้จริง สังเกตได้ชัดเจนจากดัชนี CRPs (Consumer Reach Point) ซึ่งเป็นดัชนีตัวชี้วัดและการประมวลผล ซึ่งทำให้ข้อมูลวิจัยของกันตาร์ เวิร์ลดพาแนลนี้ นอกเหนือจากมีความแม่นยำแล้ว ยังได้ข้อเท็จจริง และปัจจัยของการตัดสินใจเลือกซื้อ หรือไม่ซื้อที่จะส่งผลต่อการบริหารแบรนด์สินค้าโดยตรง โดยสามารถสรุปเป็นกฎ 4 ข้อในการสร้างแบรนด์ให้เติบโต ที่ส่งผลให้ ดัชนี CRP สามารถรักษาระดับ และคงอยู่ในระดับสูง
กฎ 1 - เพิ่มความแข็งแกร่งให้แบรนด์ เพื่อการเจาะสู่กลุ่มเป้าหมาย Increasing brand penetration is pivotal
กฎ 2 - ทำให้เหล่านักชอปสามารถเข้าถึงแบรนด์สินค้าของท่านให้ได้มากที่สุด Make your brand accessible to as many shoppers as possible
กฎ 3 - ต้องรักษาและให้ความสำคัญแม้กับลูกค้าที่ซื้อเป็นบางครั้งบางคราว Retain and attract lightor occasional buyers
กฎ 4 - จำไว้เสมอว่า ลูกค้าไม่ใช่เป็นสมบัติของคุณ หรือคุณมีอิทธิพลเหนือผู้ซื้อ Your buyers don’t belong to you
ข้อมูลวิจัยเชิงลึกของกันตาร์ เวิร์ลดพาแนลนี้เป็นที่ต้องการและมีความน่าเชื่อถือของนักทฤษฎีการตลาด ตลอดจนเหล่าศาสตราจารย์ด้านวิชาการต่างเห็นพ้องและสนับสนุน องค์ประกอบการเจาะตลาด (Penetration Proposition) ถือเป็นแนวทางสำคัญของการสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะศาสตราจารย์ ไบรอน ชาร์ป ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ได้สรุปข้อคิด ปัจจัยต่อการเจริญเติบโตของแบรนด์ที่เขาได้ทำการศึกษา และ สั่งสมประสบการณ์จากการเฝ้าวิเคราะห์ติดตามแบรนด์ต่างๆ มายาวนาน โดยใช้ข้อมูลวิจัยต่างๆ ของกันตาร์ เวิร์ลดพาแนล ประกอบการศึกษาตลอดมา
สามารถดูข้อมูลได้ที่ http://www.brandfootprint-ranking.com นอกจากนี้ หากอยากปรึกษาข้อมูลด้านการให้บริการข้อมูลวิจัย กันตาร์ฯ ให้บริการในรูปแบบสมาชิก และแบบ Project ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความจำเป็น ทั้งแบบรายปี ราย 3 ปี และสมาชิกระยะยาว 5 ปี เพื่อรับข้อมูลวิจัยพร้อมประมวลผลและข้อเสนอแนะต่างๆ ด้วยบริการ 3 ระดับ คือ Core Service, Special Analysis และ Advanced Service (Expert Analysis) คลิกดูข้อมูลได้ที่ www.kantarworldpanel.com