xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤติ “การเมือง-เศรษฐกิจ” คนปรับพฤติกรรม เน้นซื้อน้อยแต่ถี่-คอนวีเนียนสโตร์แรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


วิกฤติการเมือง - เศรษฐกิจไทย ส่งพฤติกรรมผู้บริโภคเน้นซื้อซ้ำ-ชิ้นเล็กมากขึ้น คอนวีเนียนสโตร์แซงซูเปอร์มาร์เก็ต รถคันแรกส่งสินค้ากลุ่ม FMCG หดตัวลง10% “กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล” ชี้ CRP เครื่องสำคัญผ่าวิกฤติสู่โอกาส พร้อมเผยผลสำรวจแบรนด์ที่ติดอันดับที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุดประจำปีทั้งในไทยและโกลบอล ชี้ “อิชิตัน” เป็นแบรนด์โตเร็วสุดในปีที่ผ่านมา ส่วนเครื่องดื่ม “โค้ก” ครองแบรนด์อันดับ 1 ที่ซื้อมากสุดในโลก

นายฮาร์เวิร์ด ชาง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ในกลุ่ม WPP ให้บริการข้อมูลวิจัยพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคเชิงลึก เปิดเผยว่า กันตาร์ได้เข้ามาทำสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศไทยเกี่ยวกับการจับจ่ายเชิงลึก เน้นหลักการ “คอนซูเมอร์ พาแนล” และวิเคราะห์หา Consumer Reach Point (CRP) หรืออัตราการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้านั้นๆ ในกลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์โปรดักส์เป็นหลักด้วยกลุ่มตัวอย่างกว่า 4,000 ครัวเรือน

ตลอด 15 ปีที่ผ่านมาพบว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้จากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ไม่ดี การเมืองรุนแรง ยอดขายในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค หรือ FMCG ยังเติบโตได้อยู่ 5% แต่เฉพาะจากกลุ่มผู้บริโภคที่ซื้อรถคันแรก มีการซื้อสินค้าในกลุ่มนี้ลดลง 10% ส่วนในภาพรวมนั้นยังพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่มีการซื้อสินค้าในคอนวีเนียนร์สโตร์มากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากอยู่ใกล้บ้าน สะดวกในการซื้อ โดยสินค้าที่ซื้อจะมีขนาดเล็กลง อีกทั้งพร้อมที่จะเปลี่ยนไปซื้อแบรนด์ใหม่เมื่อมีการจัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจโดยมีการชะลอการซื้อสินค้าลงมา

ทั้งนี้ CRP ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากสำหรับตลาดในประเทศไทย โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจยังไม่ดี การเมืองยังรุนแรงบวกกับตลาดในไทยมีการแข่งขันสูง มีกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลาย แต่สุดท้าย CRP จะเป็นคำตอบว่า กลยุทธ์ทางการตลาดเหล่านั้นใช้ได้ผลหรือไม่ สุดท้ายแล้วจะเกิดจำนวนผู้บริโภคเพิ่มขึ้น หรือมีการซื้อซ้ำได้มากแค่ไหน

ข้อมูล CRP จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยลูกค้าหาทางออกสู่การซื้อซ้ำที่เพิ่มขึ้นต่อไปจากปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าในไทยกว่า 30 บริษัท ทั้งอินเตอร์แบรนด์และโลคอลแบรนด์ เช่น ยูนิลีเวอร์ พีแอนด์จี และซีพี เป็นต้น ถึงสิ้นปีเชื่อว่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้น หรือมีรายได้เติบโต 2 หลัก เช่นปีที่ผ่านมา

นายฮาร์เวิร์ลด กล่าวต่อว่า ผลวิจัยจะถูกสำรวจทุกๆสัปดาห์ โดยผลสำรวจล่าสุดในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ยังไม่ออกมาบวกกับข้อมูลยังไม่เพียงพอ จึงยังไม่สามารถกล่าวถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงที่มีการทำรัฐประหารเกิดขึ้นได้ อีกทั้งในครั้งก่อน บริษัทไม่เคยนำเรื่องรัฐประหารเข้ามาเป็นตัวชี้วัดการซื้อซ้ำ จึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคจะออกมาเป็นเช่นไร

ทั้งปีนี้ยังมองว่า กลุ่มสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มยังเป็นกลุ่มหลักที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดตามตัวเลขของครึ่งปีแรกที่พบว่าเติบโตสูงสุด เนื่องจากมีการทำโปรโมชั่นแข่งขันสูงและร้านสะดวกซื้อเพิ่มจำนวนสาขาครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงหลายๆ แบรนด์ทำโปรโมชั่นร่วมกับเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งพบว่า “อิชิตัน” เป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่มีอัตราการเติบโตของแบรนด์มากสุดถึง 162% ในปีที่ผ่านมา หรือมีการซื้อซ้ำกว่า 83 ล้านครั้งจากเดิม 31 ล้านครั้ง ส่วนอันดับ 2 คือ เครื่องดื่ม “โค้ก” เติบโต 30.1% 3.ปลากระป๋องตรา “สามแม่ครัว” เติบโต 24.9% 4.“โออิชิ” โต 21.3% และ 5.“ดาวนี่” โต 21%

นอกจากนี้ยังพบว่าแบรนด์สินค้า 5 อันดับแรกที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุดในปี 2556 คือ 1.ดัชมิลล์ 2.มาม่า 3.เนสกาแฟ 4.รสดี และ 5.เลย์ ส่วนในระดับโกลบอล แบรนด์ สินค้า 5 อันดับแรกที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุดในปี 2556 คือ 1.โคคา โคลา 2.คอลเกต 3.เนสกาแฟ 4.MAGGI และ 5.เป็บซี่

ทั้งนี้ในแง่กลุ่มเครื่องดื่มแล้ว แบรนด์สินค้า 10 อันดับที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุดในไทยปี 2556 คือ 1.เนสกาแฟ 2.แลคตาซอย 3.ดัชมิลล์ 4.โอวัลติน และ 5.โฟโมสท์ 6.โคคาโคล่า 7.อิชิตัน 8.โออิชิ 9.เอ็ม-150 และ 10.ไวตามิลค์ โดยเป็บซี่อยู่ในอันดับที่ 12


กำลังโหลดความคิดเห็น