อีเอสอาร์ไอชี้องค์กรธุรกิจให้ความสำคัญใช้จีไอเอสในการวิเคราะห์ตลาดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันมากยิ่งขึ้น เผยการมาถึงของเทคโนโลยีคลาวด์ทำให้การลงทุนทางด้านนี้น้อยลง ส่งผลให้มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นหลายตลาดทั่วโลก เตรียมเจาะตลาดค้าปลีกเมืองไทยด้วย 3 โซลูชันหลัก พร้อมตั้งเป้ารายได้เพิ่มจากปีที่แล้ว 20% หรือ 1,700 ล้านบาท ส่วนตลาดภาครัฐลดสัดส่วนลงเหลือ 65% จากเดิม 70% ผลจากพิษการเมือง
นายไซมอน ทอมป์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชยกิจ อีเอสอาร์ไอ อิงค์ (สหรัฐอเมริกา) ผู้ให้บริการระบบภูมิสารสนเทศ (GIS) กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้งานระบบภูมิสารสนเทศ หรือ Geographic Information System (GIS) มีอัตราการเติบโตมากขึ้น องค์กรธุรกิจต่างนำมาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการขนส่ง การตลาด วัตถุดิบ หรือข้อมูลของคู่แข่งทางธุรกิจ โดยขณะนี้ประเทศในทวีปอเมริกาและยุโรปได้นำข้อมูลดังกล่าวมาใช้กับกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ที่มีมูลค่าตลาดสูง โดยนำระบบนี้ไปใช้ตั้งแต่การคำนวณความต้องการของตลาด การจัดการระบบขนส่งสินค้าและจัดจำหน่าย การประเมินยอดขายและเปรียบเทียบกับคู่แข่ง การแบ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พฤติกรรมผู้บริโภค สนับสนุนการส่งเสริมการขาย และช่วยในการวิเคราะห์ตลาด เป็นต้น
“สหรัฐอเมริกาเริ่มใช้จีไอเอสสำหรับธุรกิจมา 5 ปีแล้ว มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 25% ส่วนในเอเชียเริ่มมา 2 ปี มีอัตราการเติบโต 35% และใช้อย่างแพร่หลายในสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี ทั้งนี้ การขยายตัวเข้าสู่ตลาดคอมเมอร์เชียลของจีไอเอสอย่างรวดเร็วดังกล่าวเป็นผลมาจากการมาถึงของเทคโนโลยีคลาวด์ ซึ่งก่อให้เกิดการลงทุนทางด้านนี้มีค่าใช้จ่ายน้อยลง กระตุ้นการใช้งานได้มากขึ้น ดังนั้นเป้าหมายต่อไปคือการขยายตลาดจีไอเอสในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะการเปิดตลาดเออีซี”
นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี กล่าวว่า ในอดีตการใช้จีไอเอสในประเทศไทยยังแพร่หลายเฉพาะในหน่วยงานภาครัฐ เช่น ระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา การวางผังเมือง ฯลฯ ส่วนภาคเอกชนได้มีการนำจีไอเอสมาใช้บ้างแล้ว แต่ยังอยู่ในวงจำกัดเพียงไม่กี่อุตสาหกรรม เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านการลงทุนค่าใช้จ่าย เพราะในอดีตฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์มีราคาสูง รวมไปถึงการขาดแคลนข้อมูลเชิงตำแหน่งหรือแผนที่ที่จำเป็นสำหรับนำมาใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ แต่ในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น แบบ Server แบบ Cloud แบบ Mobile จึงทำให้สามารถเลือกโซลูชันในราคาที่เหมาะสมกับขนาดและธุรกิจแต่ละประเภท ซึ่งจีไอเอสของอีเอสอาร์ไอสามารถทำงานได้กับหลากหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็นเอสเอพี ออราเคิล และบีไอ
ส่วนในด้านคอนเทนต์นั้น ปัจจุบันผู้ใช้งานสามารถใส่ตำแหน่งบ้านแล้วหาข้อมูลได้ทันที โดยมีตำแหน่งสำคัญมากกว่า 1 ล้านตำแหน่ง ทำให้การใช้งานมีความแพร่หลายมากขึ้น โดยปัจจุบันตลาดจีไอเอสในไทยนั้นมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2,000 ล้าน และมีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 15% ในส่วนของตลาดเอกชนยังไม่ได้มีการเก็บรายละเอียด โดยอีเอสอาร์ไอตั้งเป้าเติบโตในปีนี้ไว้ที่ 1,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอดขายประมาณ 1,400 ล้านบาท หรือโตขึ้น 20% ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 2,000 กว่าองค์กร โดยมีลูกค้า เช่น เอไอเอส ทรู ดีแทค ปตท. ทีเอ็มบี โคคาโคล่า เคแบงก์
“สัดส่วนรายได้จากหน่วยงานรัฐในปีที่แล้วอยู่ที่ 70% ส่วนเอกชน 30% โดยมีลูกค้าในกลุ่มเทเลคอม ออยแอนด์แก๊ส แบงก์ และเอฟเอ็มซีจี ซึ่งกลุ่มสุดท้ายนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตและมีโอกาสมากที่สุด ปีนี้ภาครัฐอาจจะกระทบบ้างเล็กน้อย สัดส่วนรายได้จะเปลี่ยนเป็นภาครัฐ 65% และเอกชน 35% โดยรายได้สำหรับตลาดราชการปีที่แล้วอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าจะปิดได้ที่ 1,100 ล้านบาท”
นายไกรรพกล่าวว่า การทำตลาดในไทยปีนี้จะเน้นรุกกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคด้วยการนำเสนอ 3 โซลูชัน คือ 1. การจัดการด้านการขาย เริ่มตั้งแต่การวางแผนการขาย แบ่งเขตการขายให้เหมาะสมกับจำนวนลูกค้าและการเดินทาง สามารถนำฐานข้อมูลไปบริหารจัดการได้อย่างทันที ทำให้การตัดสินใจมีความแม่นยำ ระบุได้ว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นที่สำคัญน่าลงทุน 2. การวิเคราะห์ด้านการตลาด โดยระบบจะสามารถมอนิเตอร์ประสิทธิภาพของแคมเปญว่าได้ผลตามที่ต้องการหรือไม่ อย่างไร ทำให้การใช้เงินมีความแม่นยำมากขึ้น และ 3. การบริหารการจัดการลอจิสติกส์
ทั้งนี้ จุดเด่นของอีเอสอาร์ไออยู่ที่การวิเคราะห์รายพื้นที่ไม่ใช่เป็นการเสิร์ชแล้วดึงขึ้นมา โดยคำนึงถึงความต้องการใช้งานในองค์กรเป็นหลัก มีข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย ครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศไทยและมีความหลากหลายตรงตามความต้องการของธุรกิจด้านต่างๆ เช่นข้อมูลแผนที่ฐาน ข้อมูลถนน ข้อมูลบ้านเลขที่ ข้อมูลสถานประกอบการ ข้อมูลประชากรศาสตร์ เป็นต้น
“ในปีนี้อีเอสอาร์ไอพร้อมที่จะขยายตลาดจีไอเอสไปยังภาคเอกชน ประเดิมด้วยกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะอีเอสอาร์ไอเป็นผู้ให้บริการระบบจีไอเอสเพียงเจ้าเดียวในประเทศไทยที่สามารถนำเสนอโซลูชันจีไอเอสได้ครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางระบบ การสำรวจจัดเก็บข้อมูล จนถึงการปฏิบัติการ โดยจะเน้นการให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับจีไอเอสว่าคืออะไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ผ่านการจัดงานสัมมนาในกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค การทำคอนเทนต์ มาร์เกตติ้ง ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 10 ราย และมีรายได้จากลูกค้ากลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคราว 100 ล้านบาท”
Company Related Link :
ESRI Thailand
