ASTVผู้จัดการรายวัน - ตลาดสด “ยิ่งเจริญ” คงค่าเช่าเดิมช่วยพ่อค้า-แม่ค้า สบช่องขยายธุรกิจรับส่วนต่อขยายสถานีหมอชิต-รังสิต สายสีเขียวเหนือ เตรียมแต่งตัวเข้ากองทุนอสังหาฯ REIT ภายใน 3-5 ปี หวังระดมทุนขั้นต่ำ 2 พันล้านบาทพัฒนาธุรกิจ 3 เฟส พร้อมรุกธุรกิจอสังหาฯ ด้านอพาร์ตเมนต์ คอมมูนิตีมอลล์ และเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หวังเพิ่มรายได้เท่าตัวจากปัจจุบัน 400 ล้านบาท
นางณฤมล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สุวพีร์ ธรรมวัฒนะ จำกัด และบริษัทในเครือ ผู้บริหารธุรกิจตลาดสด “ยิ่งเจริญ” ย่านสะพานใหม่ ดอนเมือง กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีการดำเนินธุรกิจตลาดสด บริษัทฯ จึงมีแผนปรับโครงสร้างภายในองค์กรและขยายธุรกิจเพื่อรักษามาตรฐานความเป็น “ตลาดสดต้นแบบของเมืองไทย” จึงมีเป้าหมายภายใน 3-5 ปีในการผลักดันตลาดสดยิ่งเจริญเข้าสู่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ REIT โดยมีสถาบันการเงินผู้ให้การสนับสนุนคือ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
การเข้าสู่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ REIT ยังมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนขั้นต่ำ 2 พันล้านบาทเพื่อขยายธุรกิจ 3 เฟส ประกอบด้วย 1. เฟสแรก ขยายโครงสร้างตลาดเก่าบนพื้นที่ 15 ไร่ จากชั้นเดียวเป็นอาคาร 2 ชั้น พร้อมขยายพื้นที่จอดรถ 700 คันเป็น 3 พันคัน โดยมีแนวคิดพัฒนาให้มีลักษณะคล้ายกับตลาดเก่า 200 ปี นครบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ใช้งบประมาณ 1 พันล้านบาท
2. เฟสสอง ลงทุนอาคารตลาดใหม่ 8 ชั้น พร้อมที่จอดรถ ฝั่งตรงข้ามตลาดเก่า 20 ไร่ ใช้งบประมาณ 1 พันล้านบาท 3. เฟสสาม ร่วมลงทุนกับพันธมิตรธุรกิจในการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้านอพาร์ตเมนต์ คอมมูนิตีมอลล์ และเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เช่น โรงภาพยนตร์ โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ด้านประเภทธุรกิจ งบการลงทุน และอื่นๆ
“การพัฒนาธุรกิจครั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับแผนการขยายรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายสถานีหมอชิต-รังสิต สายสีเขียวเหนือ ซึ่งมีกำหนดการแล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2558 โดยในส่วนของการพัฒนาธุรกิจของตลาดยิ่งเจริญทั้ง 3 เฟสคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5-10 ปีหลังจากเข้าสู่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ REIT โดยยังมีโครงการปรับภูมิทัศน์ทุกส่วน พร้อมกับพัฒนาโครงการตลาดน้ำ โดยร่วมมือกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกองทัพอากาศ ในการพัฒนาคลองถนนทางด้านทิศใต้ของพื้นที่ตลาดเก่าเชื่อมกับคลองบางบัวทางทิศตะวันตก เพื่อยกระดับการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต รวมถึงรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตลอดจนตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 10 กิโลเมตร”
นางณฤมลกล่าวอีกว่า ตลาดยิ่งเจริญ ถือเป็นตลาดสดค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 35 ไร่ 3 งาน หรือ 57,212 ตารางเมตร มีจำนวนร้านค้า 1.5 พันราย แต่ละวันมีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอยประมาณ 3 หมื่นคน ขณะที่มีรถยนต์หมุนเวียนเข้ามาใช้บริการประมาณ 7-8 พันคันต่อวัน คิดเป็นรถยนต์เร่ขายอาหารสดประมาณ 60 คันต่อวัน ล่าสุดในปี 2557 มีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเช่าพื้นที่ 90% และค่าจอดรถ 10%
“ปัจจุบันตลาดยิ่งเจริญคิดค่าเช่าพื้นที่ขั้นต่ำตารางเมตรละ 2 พันบาทต่อเดือน โดยในปี 2558 จะยังคงราคาค่าเช่าเดิมเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากปกติที่จะมีการปรับค่าเช่าทุก 3 ปี ขณะที่พื้นที่บางโซนยังคงราคาเดิมถึง 6 ปี จึงคาดว่ารายได้ในปี 2558 จะยังคงที่ประมาณ 400 ล้านบาท โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าตัวหลังจากพัฒนาโครงการแล้วเสร็จเต็มรูปแบบ” นางณฤมลกล่าวในที่สุด