อาการน่าเป็นห่วง เผยสำรวจสถานการณ์เอสเอ็มอีรายย่อยทั่วประเทศ ยอดขายลดลงเฉลี่ยกว่า 30% แถมธนาคารพาณิชย์ไม่ยอมปล่อยเงินกู้ให้ หมดหนทางยอมหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยสุดโหด 120% ต่อปี ด้าน “เอสเอ็มอีแบงก์” เผยพร้อมอุ้ม เร่งโครงการพาเข้าถึงแหล่งทุน ล่าสุดดันโครงการ “สินเชื่อแม่ค้าคนดี” หนุนพ่อค้าแม่ค้าได้เงินทุนหมุนเวียน ดอกเบี้ยพิเศษ
นายสุพจน์ อาวาส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) กล่าวว่า จากที่ธนาคาร ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจตลาดเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยเฉพาะรายย่อย รวมถึงส่วนตัวได้พูดคุยกับตัวแทนภาคเอกชนของเอสเอ็มอีต่างๆ เช่น ประธานหอการค้าจังหวัดต่างๆ และตัวแทนของสภาอุตสาหกรรมในแต่ละจังหวัด พบสถานการณ์เหมือนกัน คือ ขณะนี้ยอดขายสินค้าของเอสเอ็มอีโดยเฉพาะในต่างจังหวัดลงลดอย่างน้อยร้อยละ 30 ซึ่งมีแนวโน้มต่อเนื่องเช่นนี้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (2557)
ปัญหาที่ตามมา จากเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองทำให้เอสเอ็มอีขาดสภาพคล่องในการหมุนเวียนการค้า นอกจากนั้นยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ เนื่องจากธนาคารเอกชนย่อมไม่ต้องการปล่อยสินเชื่อในภาวะเช่นนี้ ยิ่งเป็นการซ้ำเติมเอสเอ็มอีรายย่อยให้ลำบากมากขึ้นไปอีก จนในที่สุดต้องยอมไปใช้บริการของเงินกู้นอกระบบ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยสูงมาก
จากปัญหาดังกล่าว เอสเอ็มอีแบงก์พยายามเข้าไปรับความเสี่ยง ปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยๆ เหล่านั้น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์อย่างน้อยร้อยละ 3 ผ่านโครงการต่างๆ เพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงเงินกู้ได้ง่ายที่สุด อย่างล่าสุดเอสเอ็มอีแบงก์ได้ร่วมมือกับสมาคมตลาดสดไทย และบริษัทยิ่งเจริญ บางพลี จำกัด เปิดตัวโครงการ “สินเชื่อแม่ค้าคนดี” เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าเข้าถึงแหล่งทุนและพัฒนาศักยภาพการประกอบการค้าควบคู่ไปด้วย
สำหรับ สินเชื่อแม่ค้าคนดี เอสเอ็มอีแบงก์เตรียมวงเงินไว้ 5,000 ล้านบาท วงเงินปล่อยกู้สูงสุด 5 ล้านบาทต่อราย โดยคาดว่าอัตราปล่อยกู้เฉลี่ยต่อรายประมาณ 1.2 ล้านบาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยพิเศษอยู่ที่ร้อยละ 7-9 ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 6 ปี ขณะนี้ได้เริ่มทยอยลงพื้นที่ไปเสนอบริการให้แก่ผู้ประกอบการในตลาดสดแห่งต่างๆ เบื้องต้นในแถบปริมณฑล นำร่องที่ตลาดยิ่งเจริญ บางพลี รวมถึงไปสู่ตามต่างจังหวัด ซึ่งเริ่มไปแล้วที่ จ.นครราชสีมา และกำลังจะไปต่อที่ จ.ภูเก็ต คาดว่าจะปล่อยกู้ได้หมด ภายในไม่เกินกลางปีนี้
นายสุพจน์อธิบายเสริมว่า โครงการสินเชื่อแม่ค้าคนดี ทางเจ้าของตลาดแต่ละแห่งจะเป็นผู้คัดกรองพ่อค้าแม่ค้าที่มีศักยภาพในตลาดสดของตนส่งมาให้เอสเอ็มอีแบงก์ โดยทางเจ้าของตลาดจะทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้ด้วย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้จริง พร้อมกับช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเป็นหนี้เสียด้วย เนื่องจากหากพ่อค้าแม่ค้าที่เข้าโครงการขาดวินัยในการชำระเงิน ทางเจ้าของตลาดแต่ละแห่งจะยึดพื้นที่เช่าร้านคืนจากพ่อค้าแม่ค้า แล้วนำไปเซ้งต่อให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ
ด้านนายปริญญา ธรรมวัฒนะ นายกสมาคมตลาดสดไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันสมาคมฯ มีสมาชิกตลาดสดกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ รวมผู้ประกอบการรายย่อยนับหมื่นราย ซึ่งที่ผ่านมาพ่อค้าแม่ค้ามีปัญหาไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้เลย เนื่องจากกฎระเบียบของสถาบันการเงินไม่เอื้อในความเป็นจริงของพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบรายย่อยๆ ที่ขาดความรู้ ทั้งเรื่องระบบภาษี บัญชี รวมถึงการค้ำประกัน จึงไม่สามารถขอเงินกู้จากธนาคารเอกชนได้ ในที่สุดต้องยอมไปใช้เงินกู้นอกระบบ ซึ่งคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี แต่จากความร่วมมือครั้งนี้เชื่อว่าจะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดแต่ละแห่งเข้าถึงเงินกู้ของสถาบันการเงินได้จริง
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
