“พาณิชย์” เตรียมแผนรับมือลำไยภาคเหนือ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกองภาคใต้ออกสู่ตลาด มั่นใจดูแลราคาไม่ให้ตกต่ำได้แน่ หลังดูแลราคาผลไม้ภาคตะวันออกสำเร็จมาแล้ว เผยจีนแห่ซื้อถึงที่ ทำทุเรียน มังคุด ลำไยแทบไม่พอขาย แถมผลผลิตลดลงมาก ห่วงลองกอง เงาะ อาจมีปัญหาบ้าง แต่เชื่อเอาอยู่ จับตาผลไม้กระป๋องขาดวัตถุดิบ เหตุผลผลิตลด เผยชาวสวนแห่โค่นยางปลูกทุเรียนเพิ่ม เกรงอนาคตมีปัญหา
นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแผนรับมือผลไม้ออกสู่ตลาดว่า ขณะนี้ผลไม้ภาคตะวันออก ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ ได้ทยอยออกสู่ตลาดเกือบหมดแล้ว เหลือแต่ลองกองที่ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 60% ซึ่งที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาล้นตลาดและราคาตกต่ำ ส่วนผลไม้ภาคเหนือ ลิ้นจี่ ได้ออกสู่ตลาดหมดแล้ว ไม่มีปัญหาด้านราคาเช่นเดียวกัน ยังคงเหลือแต่ลำไยที่จะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.เป็นต้นไป รวมถึงผลไม้ภาคใต้ที่กำลังเริ่มออกสู่ตลาด และจะเริ่มออกมาตั้งแต่ช่วงปลาย ส.ค.-ต.ค. โดยมั่นใจว่าจะบริหารจัดการและดูแลราคาไม่ให้ตกต่ำได้เหมือนกับการดูแลผลไม้ภาคตะวันออก
โดยแผนการดูแลราคาผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาด กระทรวงพาณิชย์ได้มีการผลักดันให้มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาจีนได้มีการซื้อผลไม้ไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทั้งทุเรียน มังคุด และลำไย โดยเฉพาะทุเรียนแทบจะไม่พอขายเพราะจีนมาซื้อถึงที่ ประกอบกับทุเรียนภาคตะวันออกเจอพายุ ทำให้ผลผลิตเสียหาย ทำให้ผลผลิตลดลง จีนจึงต้องรอผลผลิตจากทางภาคใต้ที่กำลังจะออกสู่ตลาด ซึ่งรวมถึงมังคุดที่ปีนี้ผลผลิตลดลง โดยผลผลิตภาคใต้ลดลงมากถึง 39.09%
สำหรับลำไย ปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิต 5.57 แสนตัน ลดลง 19.97% โดยจะเริ่มออกสู่ตลาดช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้ โดยออกมาช่วงเดือน ส.ค. รวมผลผลิตที่จะออกในช่วง 2 เดือนนี้ประมาณ 3 แสนตัน ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาด้านราคา เพราะ 70% ของผลผลิตส่งออกไปยังตลาดจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม อีก 30% บริโภคในประเทศ
“ทุเรียน มังคุด ลำไย ไม่น่าเป็นห่วงเรื่องราคา เพราะช่วงที่ผลไม้ภาคตะวันออกออกมามากก็แทบไม่พอขาย อย่างทุเรียนเจอพายุ ผลผลิตน้อยลง แล้วจีนเข้ามาซื้อ ก็เลยไม่มีปัญหาด้านราคา ส่วนผลไม้ภาคใต้ที่กำลังจะออกมา ผลผลิตส่วนใหญ่ลดลง โดยทุเรียนลดลง 0.57% มังคุดลด 39.09% เงาะลด 5.98% และลองกองลด 19.95% ซึ่งคาดว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำเช่นเดียวกัน”
นางดวงกมลกล่าวว่า กระทรวงฯ ยังได้จัดทำแผนในการรับมือผลไม้ช่วงออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก โดยจะกระจายผลผลิตจากแหล่งผลิตไปยังจังหวัดต่างๆ เช่น นำลำไยจากภาคเหนือไปขายภาคใต้ หรือนำผลไม้ภาคใต้ไปขายยังภาคต่างๆ เป็นต้น การประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อผลไม้ถึงสวน รวมทั้งการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทย เช่น งาน Southern International Trade Expo 2015 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยนำลำไยและผลไม้แปรรูปไปจำหน่าย และการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อโปรโมตผลไม้ที่หนานหนิง ฉางชุน และฮาร์บิน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ไม่เป็นห่วงผลไม้ในส่วนของทุเรียน มังคุด และลำไย เพราะตลาดต่างประเทศมีความต้องการมาก ยกเว้นลองกองและเงาะที่ผลผลิตส่วนใหญ่ขายในประเทศ ซึ่งได้มีการเตรียมแผนช่วยเหลือ ทั้งการระบายออกจากแหล่งผลิต และการนำไปขายข้ามภาค
นางดวงกมลกล่าวว่า ปีนี้ปัญหาผลไม้ราคาตกต่ำไม่มี แต่มีปัญหากรณีที่ผู้ผลิตผลไม้บรรจุกระป๋องไม่มีวัตถุดิบนำมาใช้ผลิต เช่น ลำไย ลิ้นจี่ และขณะนี้ยังพบว่าสับปะรด เริ่มขาดแคลนวัตถุดิบแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งกำลังเป็นปัญหาสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตผลไม้กระป๋อง
นอกจากนี้ยังพบว่าในหลายๆ พื้นที่ โดยเฉพาะในภาคใต้ เริ่มมีการโค่นยางแล้วหันมาปลูกทุเรียนแทน เนื่องจากปัจจุบันขายราคาดี แต่ก็มีความเป็นห่วงว่ากว่าจะตัดผลผลิตได้ ซึ่งใช้เวลา 4-5 ปี ตอนนั้นราคาอาจจะไม่เป็นเช่นนี้ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต