กสอ.ขนผู้ประกอบการผลไม้แปรรูปไทยไปเปิดออกแฟร์แดนมังกร ชี้เป็นตลาดที่มีความนิยมและชื่นชอบผลไม้จากไทยอย่างยิ่ง รวมถึง อัตราการเติบโตทาง ศก.สูง กระตุ้นเร่งคว้าโอกาส
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้คัดเลือกตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป จำนวน 10 ราย เดินทางไปศึกษาข้อมูลการค้า การลงทุน และแสวงหาโอกาสในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ (15th International Food Exhibition) ณ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน
ปัจจุบันประเทศจีนถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก โดยผลสำรวจความมั่งคั่งของโลกในปี 2558 พบว่า ผลพวงจากมูลค่าหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ในปี 2557 เกิดเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านคน (ที่มา :สำนักส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว) จีนจึงถือเป็นตลาดส่งออกที่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะสินค้าและผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผลไม้ ซึ่งในระยะหลังพบว่าชาวจีนนิยมบริโภคผลไม้ไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา พบว่า มีการนำเข้าผลไม้จากประเทศไทยสูงถึง 442,349 ตัน คิดเป็นมูลค่า 389.51 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยผลไม้ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ทุเรียน ลำไย และมังคุด ทั้งนี้ ไม่เพียงการส่งออกในรูปแบบของผลไม้สดเพียงเท่านั้น ที่เป็นที่ต้องการและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปีแต่ยังถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการผลไม้แปรรูปด้วยเช่นกัน โดยหากสามารถพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์เข้าไปตีตลาดจีนได้เป็นผลสำเร็จ เชื่อว่าในภาพรวมก็จะสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายและทำรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มมากขึ้น
ด้านนางปวีณา วิถีธรรม เจ้าของบริษัท พี.พี.เอฟ.ฟู๊ดส์แอนด์โพรเสส จำกัด กล่าวว่า ผลไม้ไทยโดยเฉพาะทุเรียนเป็นที่นิยมของคนจีนมากขึ้น จึงมองว่าการนำสินค้าแปรรูปจากทุเรียนเข้าไปทดลองตลาด รวมทั้งการเจรจาธุรกิจเพื่อเปิดตลาดใหม่ในประเทศจีนน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่สามารถช่วยสร้างรายได้ได้มากขึ้น ซึ่งผลตอบรับในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะผู้ประกอบการในประเทศจีนได้ติดต่อให้ทางบริษัททำเอกสารเสนอราคาส่งไปอีกครั้งหนึ่ง โดยสินค้าที่สนใจนำเข้าไปวางขายนั้น นอกจากท๊อฟฟี่ทุเรียนก็ยังมีท๊อฟฟี่รสกะทิและท๊อฟฟี่ถั่วด้วย คาดว่าการส่งท๊อฟฟี่ทั้ง 3 รส ไปขายในประเทศจีนจะสามารถทำรายได้เข้าสู่บริษัทเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว
ด้าน นายอุกฤษณ์ วงศ์ทองสาลี เจ้าของร้านจันทรโภชนา กล่าวว่า ทางร้านนำผลิตภัณฑ์ทุเรียนเชื่อมไปให้ผู้ประกอบการชาวจีนและผู้ร่วมงานทดลองชิม ผลตอบรับที่ได้ทำให้ทราบว่าแม้คนจีนจะชอบกินทุเรียนมาก แต่ทุเรียนที่นำมาทำทุเรียนเชื่อมนั้นไม่สุกมาก ผิวสัมผัสจึงคล้ายๆ กับมันเชื่อม คนจีนจึงไม่ค่อยชื่นชอบมากนัก เพราะไม่คุ้นเคยกับการกินทุเรียนในลักษณะนี้ เนื่องจากชอบกินแบบสุกงอมจนเกือบเละแล้วมีกลิ่นแรงมากกว่า
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประชากรในประเทศจีนมีจำนวนมาก และมีหลากหลายกลุ่มชั้นซึ่งมีรายได้และลักษณะการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงยังคงมองว่าการผลิตสินค้าแปรรูปทางการเกษตรไม่เฉพาะทุเรียน แต่ยังรวมไปถึงลำไย มังคุด และมะม่วง ยังคงมีโอกาสเติบโตอีกมากหากสามารถทำได้ตรงกับความต้องการผู้บริโภคในประเทศจีน
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *