“พาณิชย์” ปลื้มระบายผลไม้ผ่านห้างสำเร็จเกินคาด พบยอดขายพุ่ง หลายห้างสั่งซื้อไปขายเพิ่ม

“พาณิชย์” ปลื้มโครงการจับมือโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้า ระบายผลไม้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ยอดขายพุ่ง ห้างต้องสั่งซื้อเพิ่ม เผยลิ้นจี่พะเยา 1 พันกิโลกรัมขายหมดภายใน 45 นาที ขณะที่ผลไม้อื่นๆ ได้รับการตอบรับไม่แพ้กัน

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจัดทำโครงการ “กินผลไม้ไทย ใช้ OTOP มอบสุขทั่วไทย” ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) ในการระบายผลไม้ในช่วงต้นฤดูกาลผลิต ทั้งเงาะ ทุเรียน มังคุด และลิ้นจี่ ว่า ขณะนี้ห้างเทสโก้ โลตัส บิ๊กซี ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และอิมพีเรียล เวิลด์ ได้นำผลไม้ไปจำหน่ายในห้างแล้ว และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยห้างได้แจ้งความประสงค์ที่จะสั่งซื้อผลไม้เพื่อไปจำหน่ายเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของเทสโก้ โลตัส ได้แจ้งว่าหลังจากเปิดโครงการตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาสามารถจำหน่ายผลไม้ได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 200 ตัน และมีความประสงค์จะสั่งซื้อผลไม้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมียอดขายประมาณ 380 ล้านบาท

ขณะที่ห้างอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง จ.สมุทรปราการ ที่ได้ร่วมกับกลุ่มพาณิชย์จังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด จัดเทศกาลผลไม้และผลไม้แปรรูปภาคเหนือ ครั้งที่ 3 ก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค โดยเฉพาะลิ้นจี่คุณภาพจากจังหวัดพะเยา ซึ่งเพียงแค่เปิดขาย 45 นาที ลิ้นจี่ปริมาณ 1,000 กิโลกรัม (กก.) ก็หมดลงอย่างรวดเร็ว ส่วนทุเรียนพันธุ์หลงลับแล และหลินลับแล จากอุตรดิตถ์ ที่ราคาสูงถึง กก.ละ 500 บาท ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และยังมีมะขามหวาน มะม่วง เสาวรส สับปะรดภูแล สับปะรดห้วยมุ่น รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน

สำหรับห้างบิ๊กซี ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดกิจกรรมจำหน่ายผลไม้ โดยที่สาขาราชดำริ ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองมีนักท่องเที่ยว เช่น ชาวจีน เกาหลี และญี่ปุ่น เข้าไปเลือกซื้อผลไม้เป็นจำนวนมาก โดยทุเรียน และลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่ขายดี ส่วนสินค้า OTOP ที่ขายได้ เช่น แหนมเนือง ผลิตภัณฑ์จากข้าว ผ้าพื้นเมือง ทั้งนี้ บิ๊กซียังได้ลงนามกับกลุ่มเกษตรกรบ้านแสนตุง จ.ตราด ซื้อผลไม้และสินค้า OTOP รวม 860 ตัน ทั้งทุเรียน มะม่วง สับปะรด มะขามหวาน ผลไม้และอาหารแปรรูป ขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์ทาผิว ผ้าพื้นเมือง เพื่อนำไปจำหน่ายในห้างด้วย

ส่วนท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต จะจัดงานวันที่ 27 พ.ค.-2 มิ.ย. 2558 ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 14 สาขา เช่น อุดรธานี ขอนแก่น ภูเก็ต เชียงราย เชียงใหม่ พัทยา หาดใหญ่ เกาะสมุย คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชนเช่นเดียวกัน

“กระทรวงฯ ต้องการช่วยหาช่องทางการตลาดให้กับผลไม้ โดยกระจายผลผลิตจากแหล่งผลิตไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคในพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่เพาะปลูกได้ลิ้มรสผลไม้ชนิดต่างๆ และยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ช่วยให้คนไทยหันมาเห็นคุณค่าของผลไม้ไทยและบริโภคผลไม้ไทยเพิ่มมากขึ้น” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปยังเกษตรกรให้เน้นการผลิตให้ได้คุณภาพมาตรฐาน เพราะหากผลไม้มีคุณภาพก็จะสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น และตลาดเป็นที่ต้องการ