ASTVผู้จัดการรายวัน - ทุนไทย “สยามอินเตอร์ฯ” ผนึกร่วมทุนกับนักธุรกิจลาว ผุดบริษัทรับสัมปทานบริหารพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะ 200 ไร่ เบื้องต้นผุด “ลาว ดิวตี้ฟรี” 3.5 พันล้านบาท ก่อนลุยทั้งโปรเจกต์ 1 หมื่นล้านบาท
นายสยาม รามสูตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจดิสทริบิวเตอร์ในกลุ่มประเทศ CLMV เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับ บริษัท บีเอ็มเอ็ม กรุ๊ป จำกัด ซึ่งบริหารงานโดยนายพิสิฐ บัญญาดิษฐ์ นักธุรกิจดิวตี้ฟรีของลาว เพื่อก่อตั้ง บริษัท บีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด โดยไทยถือหุ้น 49% และลาวถือหุ้น 51% เพื่อร่วมกันบริหารโครงการเขตเศรษฐกิจเฉพาะที่ถนนดงโพสี กรุงเวียงจันทน์ พื้นที่ 200 ไร่ในลาว ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย จากบริษัทร่วมทุนที่ได้รับสัมปทานบริหารเขตฯ ดังกล่าวจากรัฐบาลลาวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีอายุสัมปทาน 50 ปี บวก 50 ปี
การเลือกลงทุนในเขตเศรษฐกิจเฉพาะแห่งนี้เพราะใกล้สะพานมิตรภาพ แห่งที่ 1 มีมูลค่าการค้าชายแดนมากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี ใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง สะดวกต่อการขนส่ง และยังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีต่างๆ เช่น ต่างชาติสามารถเปิดธุรกิจในเขตนี้โดยมีผู้ถือหุ้นเป็นต่างชาติเต็ม 100% ได้ มีการอำนวยความสะดวกการจัดการบริการจดทะเบียนการค้า และการขออนุญาตธุรกิจ เป็นต้น นอกจากนั้น ธุรกิจในเขตฯ นี้ยังได้รับการยกเว้นภาษีการค้า ภาษีนำเข้าสินค้า และการเปิดบัญชีธนาคารเงินฝากเพื่อนำเงินเข้าและออก
สำหรับโครงการส่วนแรกคือ โครงการ “ลาว ดิวตี้ฟรี” หรือ “แอลดีเอฟ” (LDF) ได้รับไลเซนส์เป็นทางการจากรัฐบาลลาวแล้ว ลงทุน 3.5 พันล้านบาท พื้นที่โครงการ 3.7 หมื่นตารางเมตร พื้นที่ขาย 2.2 หมื่นตารางเมตร ที่จอดรถสูง 4 ชั้นรองรับรถยนต์ 300 คัน รวมพื้นที่ทั้งหมด 20 ไร่ คาดว่าจะคืนทุนภายใน 5 ปี สินค้าที่จำหน่ายมีหลากหลาย เช่น แฟชั่น สัดส่วน 45% ซูเปอร์มาร์เกต 10% โดยขณะนี้ได้เจรจากับ “วิลล่า ซูเปอร์มาร์เก็ต” แล้ว ธุรกิจสกินแคร์ 5% ร้านอาหารเครื่องดื่ม 9% และธนาคารพาณิชย์ 5% เป็นต้น
นายสยามกล่าวว่า ศักยภาพของลาวมีมากในอนาคต เมื่อปี 2557 มีนักท่องเที่ยวเข้าลาว 4.1 ล้านคน แบ่งเป็นจากคนไทย 2 ล้านกว่าคน เวียดนาม 1.1 ล้านคน และ ลาว 4 แสนกว่าคน และอื่นๆ เพิ่มจากปี 2556 ที่มีประมาณ 3.7 ล้านคน โดยปีที่แล้วนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในเขตดังกล่าวมากถึง 2.3 ล้านคน นอกจากนั้นยังมีปัจจัยสำคัญคือ โครงการรถไฟความเร็วสูง มูลค่า 7.2 พันล้านบาท เส้นทาง คุนหมิง-เวียงจันทน์-กรุงเทพฯ ระยะทาง 420 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2562 จะยิ่งช่วยทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น ตั้งเป้าหมายมีคนเข้ามาใช้บริการในลาวดิวตี้ฟรี 1 หมื่นคนต่อวัน
“รัฐบาลลาวมีเป้าหมายที่จะผลักดันการท่องเที่ยวให้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันรายได้ประเทศ โดยตั้งเป้าเพิ่มนักท่องเที่ยวเป็นเท่าตัวต่อปี โดยปีที่แล้วมีรายได้จากการท่องเที่ยว 2 หมื่นล้านบาท และที่ผ่านมาลาวขาดดุลทางการค้าตลอด โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างเศรษฐกิจลาวให้แข็งแกร่งได้ด้วย”
นายสยามกล่าวเสริมว่า การขยายในส่วนอื่นคงต้องหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญแข็งแกร่งในแต่ละธุรกิจดีกว่า เช่น โรงแรม อาจจะเป็นเชนจากต่างประเทศเข้ามาบริหาร เป็นต้น หรือเมกะมอลล์ก็อาจจะเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญอยู่แล้ว เพราะเราชำนาญเรื่องการบริหารจัดการลอจิสติกส์ การจัดจำหน่าย ส่วนผู้ร่วมทุนคือ “บีเอ็มเอ็มกรุ๊ป” ชำนาญทางด้านสินค้าร้านปลอดภาษีและเป็นคนท้องถิ่นด้วย
“ขณะนี้ได้เริ่มพรีเซลแล้ว คาดว่าช่วงแรกจะขายพื้นที่ได้ประมาณ 40% ลักษณะจะเป็นแบบคอนไซน์เมนต์เหมือนห้างสรรพสินค้า แล้วแบ่งรายได้เป็นค่าจีพีให้กับผู้ค้า ขณะที่ธุรกิจอื่น เช่น คลินิก และธนาคารการเงิน จะเป็นการเช่าตายตัว เปิดบริการ 10.00-22.00 น.”
ด้าน นายสมคิด ตันทัดวาณิชย์กุล ผู้ก่อตั้ง บริษัท ธิงค์เวิร์ค จำกัด ผู้บริหารงานขายโครงการ “ลาว ดิวตี้ฟรี” กล่าวว่า โครงการดังกล่าวหากลงทุนทั้งโครงการเต็มรูปแบบ คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ประกอบไปด้วย ดิวตี้ฟรี, แวร์เฮาส์, เมกะมอลล์, ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ก่อสร้าง เป็นต้น โดยเฉพาะดิวตี้ฟรี ลงทุน 3.5 พันล้านบาท ก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 70% คาดว่าจะเปิดบริการได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559
