กระแสข่าววิกฤตแล้งส่งผลกระทบความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนญี่ปุ่น “อมตะ” ร่อนหนังสือถึง CEO เรียกเชื่อมั่นนักลงทุนนิคมฯ 2 แห่ง พร้อมยืนยันตะวันออกไร้ปัญหา แต่ระยะยาวหนุนให้ตั้งกระทรวงน้ำ
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤตภัยแล้งที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ในปัจจุบันทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเริ่มสอบถามเข้ามามาก ดังนั้นอมตะจึงได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังผู้บริหารระดับสูงในไทย โดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่นที่ลงทุนในนิคมฯ อมตะนคร จ.ชลบุรี และนิคมฯ อมตะซิตี้ จ.ระยอง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าปัญหาภัยแล้งจะไม่เกิดแก่อมตะอย่างแน่นอน และยืนยันถึงระดับภูมิภาคตะวันออกของไทยเองก็จะไม่มีปัญหา
“วิกฤตภัยแล้งเมื่อปี 2548 ทำให้นิคมฯ ในตะวันออกและรัฐเองได้มีแผนบริหารจัดการน้ำ จนวันนี้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน ส่วนการบริหารระยะยาวนั้นส่วนตัวเห็นว่าแผนนั้นมีอยู่แต่การบริหารจัดการยังต้องปรับ ซึ่งเห็นว่าควรจะแยกออกมาเป็นกระทรวงน้ำรับผิดชอบเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะ” นายวิบูลย์กล่าว
นายชูชาติ สายถิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมตะ วอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเรื่องสภาวะภัยแล้งนั้น เป็นการรายงานสถานการณ์โดยรวมของทั้งประเทศ เนื่องจากปีนี้มีปริมาณน้ำฝน และน้ำคงเหลือในอ่างเก็บน้ำต่างๆ น้อยกว่าปีก่อนๆ มาก ส่วนของนิคมฯ อมตะนั้นยืนยันว่ามีน้ำใช้ตลอดทั้งปีแน่นอน เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะมีทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับปากแม่น้ำก่อนไหลลงสู่อ่าวไทย และบริษัทฯ ได้พัฒนาแหล่งน้ำอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี โดยใช้พื้นที่กว่า 500 ไร่เป็นแก้มลิงสำหรับเก็บน้ำไว้สำรองใช้ได้ตลอดทั้งปี
ปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมอมตะมีบ่อเก็บน้ำสำรองความจุกว่า 30 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำกักเก็บ ณ วันที่ 8 ก.ค. 2558 อยู่ถึง 17 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่มีความต้องการใช้น้ำจนถึงสิ้นปี 2558 อยู่ที่ 12 ล้าน ลบ.ม. ส่วนนิคมฯ อมตะซิตี้ จ.ระยอง มีอ่างเก็บน้ำซึ่งมีความจุ 5.5 ล้าน ลบ.ม. รับน้ำจาก East Water เพิ่มอีกปีละ 7 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่มีความต้องการใช้น้ำจนถึงสิ้นปี 2558 อยู่ที่ 4.5 ล้าน ลบ.ม.
