กบง.เตรียมเคาะราคาแอลพีจีประจำเดือน ก.ค.สัปดาห์หน้า เผยต้นทุนตลาดโลกลดจิ๊บจ๊อยแค่ 10 สตางค์ต่อ กก. แนวโน้มตรึงราคาขายปลีกไว้คงเดิม
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) สัปดาห์หน้า ที่กำหนดเบื้องต้นไว้ในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้จะมีการพิจารณาราคาแอลพีจีประจำเดือน ก.ค. 2558 ตามทิศทางสะท้อนกลไกราคาตลาดโลก โดยเบื้องต้นราคาแอลพีจีตลาดโลกมีทิศทางปรับลดลง 15 เหรียญสหรัฐต่อตันหรือประมาณ 10 สตางค์ต่อกิโลกรัม (กก.) ดังนั้นจึงอยู่ที่ กบง.จะตัดสินใจพิจารณา
“ทิศทางราคาแอลพีจีที่ลดลงเล็กน้อยก็มีโอกาสที่ กบง.จะตรึงราคาขายปลีกไว้ที่เดิมที่ 23.96 บาทต่อ กก. ค่อนข้างสูง เนื่องจากหากปรับลดก็ลดไม่มากนักจึงควรจะเก็บเงินสะสมเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่แยกบัญชีไว้ในส่วนของกองทุนแอลพีจีเพื่อสะสมไว้ดูแลราคาขายปลีกหากอนาคตราคาปรับสูงขึ้นจะดีกว่า แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ กบง.จะเห็นชอบ” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันที่ 21 มิ.ย. 58 มีฐานะสุทธิอยู่ที่ 42,464 ล้านบาท แบ่งเป็นเฉพาะรายได้ส่วนของน้ำมันเชื้อเพลิง 35,136 ล้านบาท และกองทุนแอลพีจี 7,328 ล้านบาท โดยหากพิจารณาในส่วนของน้ำมันเชื้อเพลิงการเก็บสะสมเข้ากองทุนฯ ถือว่าอยู่ในระดับที่สูง รัฐจึงให้ราคาขายปลีกน้ำมันช่วงนี้สะท้อนกลไกตลาดโลกเพื่อให้ประโยชน์ตกแก่ผู้ใช้น้ำมันเป็นหลัก แต่ในส่วนของแอลพีจียอมรับว่าการสะสมเงินยังต่ำหากอนาคตราคาแอลพีจีตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าแอลพีจี กล่าวว่า การที่รัฐตรึงราคาแอลพีจีเพื่อสะสมเงินไว้ดูแลราคาแอลพีจีช่วงที่ตลาดโลกสูงเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนนั้นเห็นว่ารัฐควรจะชี้แจงในประเด็นนี้ด้วยเพราะประชาชนเองจะได้เข้าใจ เพราะขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ว่าตลาดโลกลงแต่เหตุใดแอลพีจีไม่ยอมลดลง
“ขณะนี้การใช้แอลพีจีภาพรวมยังคงลดลง 10-15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยจากการส่งออกที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าแอลพีจีในภาคอุตสาหกรรมนั้นมียอดการใช้ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากเฉลี่ยกว่า 10% โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี)” นายชิษณุพงศ์กล่าว