“ฉัตรชัย”สั่งพาณิชย์จังหวัดร่วมมือเกษตรจังหวัด ดูแลสถานการณ์สินค้าเกษตรใกล้ชิด ป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ ย้ำต้องรีบติดตามก่อนปัญหาเกิด และให้รายงานทันที เพื่อจะมีมาตรการดูแลได้ทัน เตรียมเสนอ กนป. กำหนดให้โรงสกัด ลานเท ซื้อผลปาล์มราคากิโลละ 4.20 บาท โดยยอมให้ลานเทหักค่าขนส่งได้ ย้ำ อคส. พร้อมซื้อน้ำมันปาล์มดิบ แต่ต้องดูสถานการณ์ก่อน
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของหน่วยงานในภูมิภาคของกระทรวงพาณิชย์ว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดที่ประจำอยู่ในจังหวัดต่างๆ ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรในจังหวัดของตนเองอย่างใกล้ชิด โดยให้ประสานงานกับเกษตรจังหวัดในการติดตามดูแลสถานการณ์การผลิต ปริมาณผลผลิต สถานการณ์การค้า เพื่อป้องกันปัญหาราคาตกต่ำ และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร
“ขอให้มีการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรในพื้นที่จังหวัดของตัวเองทุกรายการ หากพบว่าสินค้าเกษตรรายการไหน เริ่มที่จะมีปัญหา ทั้งด้านผลผลิตล้นตลาด หรือราคาตกต่ำ ก็ต้องรีบแจ้ง รีบรายงาน เพื่อที่กระทรวงพาณิชย์จะได้เตรียมแผน เตรียมมาตรการรับมือได้อย่างทันท่วงที”
นอกจากนี้ ขอให้ลงพื้นที่ โดยทำงานใกล้ชิดกับเกษตรจังหวัดในการเข้าไปให้ความรู้แก่เกษตรกรในการดูแลผลผลิต และการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ไม่ใช่เก็บตอนอ่อนหรือผลผลิตยังไม่สุกดี เพราะจะทำให้คุณภาพเสียหาย และขายไม่ได้ราคา แต่ถ้าเก็บตอนแก่ คุณภาพจะได้ และขายได้ราคาดี
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ ได้เตรียมเสนอให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ในวันนี้ (20 พ.ค.) เพื่อพิจารณากำหนดให้โรงสกัดและลานเท รับซื้อผลปาล์มสดจากเกษตรกรในราคากิโลกรัม (กก.) ละ 4.20 บาท ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% แต่ในส่วนของลานเท ให้สามารถหักค่าขนส่งจากเกษตรกรได้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่จะเข้ามาช่วยดูแลเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แต่การหักค่าขนส่งจะหักได้สูงสุดไม่เกิน 20-25 สตางค์ ขึ้นอยู่กับระยะขนส่งจากลานเทไปยังโรงสกัดใกล้หรือไกล หากใกล้มากก็จะหักค่าขนส่งต่ำกว่านี้
ทั้งนี้ ยังได้เตรียมเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมปาล์มระยะยาว โดยจะเสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผลักดันให้เกษตรกรปลูกปาล์มที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่สูงขึ้น เพื่อให้คุณภาพดีขึ้น และผลักดันให้มีการสร้างแท๊งน้ำมันปาล์ม เพื่อเก็บน้ำมันปาล์มดิบในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก
ส่วนการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้าไปซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงสกัดเพื่อนำมาเก็บไว้ และให้ระบายในช่วงที่ผลผลิตน้อย เพื่อช่วยดึงปริมาณผลผลิตออกจากตลาดนั้น หลักการตรงนี้ยังคงมีอยู่ แต่ อคส. จะเข้าไปซื้อเมื่อใด เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และจะดำเนินการเท่าที่จำเป็น
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า กระทรวงฯ ยังได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในส่วนภูมิภาคดำเนินการตามนโยบายการให้บริการแบบบูรณาการ (One roof) ภายใต้หน่วยงานเดียว ซึ่งจะมีการรวบรวมงานของค้าภายในจังหวัด พัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด งานของกรมการค้าต่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา มาอยู่ในสำนักงานพาณิชย์จังหวัด โดยให้พาณิชย์จังหวัดเป็นหัวหน้าสำนักงาน เพื่อให้งานบริการประชาชนอยู่ในจุดเดียว ซึ่งจะช่วยให้เกิดการประหยัดเวลา และทำให้งานบริการทำได้ดีขึ้น