ตรัง - โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในจังหวัดตรัง แจงเหตุที่ต้องปิด 5 วัน เพราะไม่อาจรับซื้อผลปาล์มสดจากเกษตรได้อีก เพราะมีปริมาณมากจนล้น ทั้งที่ได้เดินเครื่องจักรตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว
วันนี้ (1 พ.ค.) จากสถานการณ์ที่ราคาพืชผลทางด้านการเกษตรตกต่ำในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันที่เหลือเพียงแค่กิโลกรัมละ 2.70 บาท ทำให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในจังหวัดตรังทั้ง 4 แห่ง ต้องประกาศหยุดรับซื้อผลปาล์มสดไปจนถึงวันที่ 5 พฤษภาคมนั้น
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบริษัท ตรังน้ำมันปาล์ม จำกัด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดย นายวรวัฒน์ วงษ์สุรีย์รัตน์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินยอมรับว่า สาเหตุที่โรงงานต้องหยุดรับซื้อผลปาล์มสดจากเกษตรกร มาจากสาเหตุที่มีผลผลิตออกมามาก นับตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ผลปาล์มสดล้นสต๊อก และโรงงานสกัดน้ำมันไม่ทัน เนื่องจากมีกำลังการผลิตอยู่ที่วันละ 1,000 ตันเท่านั้น แต่ในช่วงนี้กลับมีผลปาล์มสดเข้ามายังโรงงานถึงวันละ 2,800-3,000 ตัน และโรงงานได้เดินเครื่องจักรตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ทำให้รถขนผลปาล์มสดบางคันต้องมาจอดรอ และบางคันต้องนอนค้างคืน
โดยผลปาล์มสดที่ล้นสต๊อกเหล่านี้ หากทิ้งไว้นานหลายวันจะเกิดปัญหาเน่าเสีย โรงงานจึงหาทางออกโดยการหยุดรับซื้อผลปาล์มสดไปถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2558 และได้แจ้งให้ลูกค้าได้รับทราบล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว นอกจากนั้น ในปีนี้ผลผลิตปาล์มยังไม่ออกมาตามฤดูกาลปกติ คือ ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม แต่กลับมาออกมากในเดือนเมษายนจนล้นสต๊อกโรงงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกมาก ส่วนการที่ที่รัฐบาลนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศมาเลเซีย 5 หมื่นตัน เมื่อเร็วๆ นี้ ก็อาจมีผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก แต่สาเหตุที่ทำให้ราคาตกต่ำจนเหลือแค่กิโลกรัมละ 2.70 บาทนั้น เป็นเรื่องอุปสงค์อุปทาน อันเนื่องมาจากผลปาล์มสดล้นตลาดมากกว่า อย่างไรก็ตาม จากปัญหาดังกล่าวทางผู้บริหารบริษัท ตรังน้ำมันปาล์ม จำกัด กำลังดำเนินการลงทุนอีกหลายร้อยล้านบาทเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และรองรับการค้าน้ำมันปาล์มกับกลุ่ม AEC ในเร็วๆ นี้
