xs
xsm
sm
md
lg

“สนั่น” เผยโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” สำเร็จเกินคาด หลังนำคณะบุกเวียดนามมียอดลงทุน 1,200 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สนั่น” ปลื้มโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” สำเร็จเกินคาด หลังรายใหญ่ที่มีประสบการณ์นำธุรกิจรายกลางและเล็กไปบุกเจาะตลาดเวียดนาม เผยมีมูลค่าลงทุนทันที 1,200 ล้านบาท เตรียมเจาะตลาดกัมพูชาต่อไป พร้อมแนะรัฐบาลช่วยลดขั้นตอนในการทำธุรกิจเพื่อให้การค้าลื่นไหล

นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม มีการขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 5% ถือว่าสูงกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะขยายตัว 3.2-3.5% ทำให้หลายประเทศให้ความสนใจเข้าไปลงทุนและทำการค้ากับประเทศเหล่านี้ ซึ่งสภาหอฯ ได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์จัดทำโครงการเพื่อนช่วยเพื่อน โดยผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในตลาดเหล่านี้จะเป็นพี่เลี้ยงให้ผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ในการบุกเจาะตลาด

“เราเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 2557 มีธุรกิจกว่า 50 รายสนใจสมัครเข้ามา แต่ได้คัดเลือกธุรกิจที่มีความพร้อมได้ 12 ราย และนำคณะไปยังประเทศเวียดนามเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จเกิดความร่วมมือด้านการลงทุนคิดเป็นมูลค่า 1,200 ล้านบาท เช่น ตั้งโรงงานเครื่องนุ่งห่ม พลาสติก ค้าปลีก น้ำมันหล่อลื่น เป็นต้น”

นอกจากนี้ ยังได้บรรลุข้อตกลงตั้งคณะทำงานร่วมไทย-เวียดนาม เพื่อกำหนดแนวทางและติดตามการแก้ปัญหาและลดอุปสรรคตามที่แต่ละประเทศนำเสนอ ซึ่งจะประชุมคณะทำงานครั้งแรกเดือน มิ.ย.นี้ ที่ประเทศไทย ซึ่งได้มีการตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันการค้าระหว่างกันให้ได้ถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563

สำหรับประเทศ CLMV ที่เหลือก็จะใช้แนวทางเดียวกันกับประเทศเวียดนาม โดยมีแผนที่จะนำคณะนักธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือกเดินทางไปยังกัมพูชาในเดือน มิ.ย. 2558 และกำลังพิจารณาประเทศที่เหลือต่อไป ซึ่งมั่นใจว่าแนวทางการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการของไทยมีโอกาสในการเข้าลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านได้เพิ่มมากขึ้น เพราะไทยได้เปรียบในเรื่องความนิยมในสินค้าและศักยภาพทางธุรกิจสูง

อย่างไรก็ตาม การผลักดันการค้าชายแดนจะช่วยชดเชยการส่งออกรวมในปีนี้ที่คาดว่าจะหดตัว โดยคาดว่าส่งออกรวมจะโตไม่เกิน 1%

นายสนั่นกล่าวว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์และรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ได้เสนอให้รัฐบาลลดขั้นตอนในเรื่องกฎระเบียบเพื่อให้การทำการค้าลื่นไหล เช่น การคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไม่ควรเกิน 30 วัน จากปัจจุบันเป็นปี ช่วยสภาพคล่องการเงินให้แก่ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก จัดทำเขตปลอดภาษีตามแนวชายแดน และลดเวลาพิจารณาการปล่อยสินค้าข้ามแดน เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น