ยานยนต์เสนอรัฐผลักดันไทยเป็นฮับการผลิตรถบรรทุกขนาดใหญ่ 2-5 ตัน หลังเป็นฮับผลิตรถกระบะและรถอีโคคาร์ได้แล้ว แนะเร่งส่งเสริมดึงบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกเข้ามาลงทุน หวั่นไปลงที่อื่นจะดึงกลับมายาก มั่นใจผลิตแล้วมีตลาดรองรับ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้หารือกับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โดยภาคเอกชนได้เสนอให้ภาครัฐสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิต (ฮับ) รถบรรทุกขนาดใหญ่ ขนาด 2-5 ตัน หลังจากที่ไทยประสบความสำเร็จในการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถกระบะและรถยนต์อีโคคาร์แล้ว และปัจจุบันสามารถผลิตและส่งออกไปได้ทั่วโลก จนสร้างรายได้จากการส่งออกเข้าประเทศเป็นอย่างมาก
“เอกชนบอกว่าไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถบรรทุกขนาดใหญ่ได้ เพราะไทยมีความพร้อมทั้งบุคลากร วัตถุดิบ ถ้ารัฐบาลสนับสนุนและบีโอไอให้การส่งเสริมการลงทุนก็สามารถดึงผู้ผลิตที่เป็นแบรนด์ดังๆ ระดับโลกมาได้ ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับไทยเองที่จะเป็นฮับการผลิตยานยนต์ เพื่อป้อนความต้องการของตลาดโลกได้ในทุกระดับ เพราะหากไม่รีบทำตอนนี้ ถ้าบริษัทแม่ของยานยนต์หันไปลงทุนที่อื่นจะดึงกลับมาไม่ได้”
ทั้งนี้ ในกลุ่มประเทศอาเซียนไทยมีศักยภาพเพียงพอในการดึงดูดการลงทุน โดยประเทศเพื่อนบ้านไม่มีอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ในอาเซียนก็มีอินโดนีเซียและมาเลเซียที่เป็นคู่แข่งสำคัญ แต่หากเทียบกันแล้วไทยมีศักยภาพดีกว่า และเมื่อมาลงทุนแล้วก็สามารถทำตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านที่เศรษฐกิจกำลังมีการขยายตัว
นางนันทวัลย์กล่าวว่า ในด้านการผลักดันการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วน ภาคเอกชนต้องการให้รัฐช่วยเร่งรัดการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) เพื่อเปิดตลาดเจาะเข้าไปยังอียู และส่งเสริมการส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ ที่มีโอกาส เช่น ละตินอเมริกา และแอฟริกา ซึ่งกรมฯ ก็มีแผนที่จะนำภาคเอกชนออกไปบุกเจาะตลาดนี้แล้ว เพราะเห็นว่ามีโอกาสในการส่งออกได้สูง โดยเฉพาะชิ้นส่วนยานยนต์
นอกจากนี้ เอกชนยังขอให้ช่วยดูแลต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะการลดภาษีนำเข้าเครื่องจักร การเร่งจัดตั้งศูนย์ทดสอบชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทยให้เกิดขึ้นโดยเร็ว