เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ตัวแทนขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในประเทศจีน เรียกร้องกฎหมายความปลอดภัยบนท้องถนนฉบับเข้มข้น หลังพบประชากรวัยเด็กสังเวยชีวิตให้กับอุบัติเหตุมากกว่า 10,000 คนต่อปี
“แต่ละวันเด็กเกือบ 30 คน ต้องจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุทางการจราจร ทั้งที่พวกเขาก็เป็นแค่เด็กธรรมดา นั่งรถกับครอบครัว วิ่งเล่น ไปและกลับจากโรงเรียน” เบอร์นาร์ด ชวาร์ทแลนเดอร์ กล่าวระหว่างการประชุมในกรุงปักกิ่ง เนื่องในสัปดาห์ความปลอดภัยทางถนนทั่วโลกขององค์การสหประชาชาติ
ชวาร์ทแลนเดอร์กล่าวกระตุ้นนักกฎหมายจีนเร่งผลักดันการบัญญัติและบังคับใช้กฎหมายความปลอดภัยบนถนนที่เข้มงวดกวดขันยิ่งขึ้น พร้อมกับเรียกร้องบรรดาบริษัทยานยนต์ดำเนินการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพดี รวมถึงเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองเพิ่มความเอาใจใส่สวมหมวกนิรภัยให้กับลูกหลานเวลาปั่นจักรยาน
องค์การอนามัยโลกเผยข้อมูลอีกว่า ทุกปีประชาชนอย่างน้อย 200,000 คน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนบนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งตัวเลขขององค์การฯ สูงกว่าของทางการจีน โดยกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์จีนระบุไว้ที่ 87,200 คน จากอุบัติเหตุ 426,000 ครั้ง ในช่วงสิบเดือนแรกของปีก่อน
ขณะที่ผลการศึกษาระดับโลกซึ่งตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์ เดอะ แลนเซ็ต ชี้ว่าอุบัติเหตุจากการจราจรบนท้องถนนได้แซงหน้าโรคมะเร็งขึ้นเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของพลเมืองจีนในอันดับที่สาม เมื่อเทียบกับอีกแปดประเทศกำลังพัฒนา
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าอัตราการเสียชีวิตจำนวนมากนี้ เป็นเพราะพฤติกรรมการขับรถอันย่ำแย่ บวกกับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงฯ เผยว่า ปี 2546 จีนมีรถยนต์วิ่งสัญจรอยู่ที่ 24 ล้านคัน แต่สิ้นปีที่ผ่านมาตัวเลขดีดสูงขึ้นอย่างน่าตกใจไปอยู่ที่ 154 ล้านคันแล้ว
ทั้งนี้จำนวนรถในเมืองใหญ่กว่า 31 แห่งของจีนต่างมากกว่าหนึ่งล้านคันทุกเมือง โดยนครสำคัญ 8 แห่ง อาทิ เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น เทียนจิน และหังโจว ล้วนมีรถราวิ่งแล่นเกิน 2 ล้านคัน ส่วนนครหลวงปักกิ่งก็มีอยู่มากกว่า 5 ล้านคัน