ปตท.ศึกษาความเป็นไปได้โครงการโรงกลั่นและปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ มูลค่า 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐที่เวียดนามใหม่อีกครั้งหลังราคาน้ำมันโลกวูบ คาดสรุปชัดเจนปลายปีนี้ ยอมรับยังไม่มีพันธมิตรท้องถิ่นร่วมทุนด้วย ยอมรับว่าเสี่ยงและเกิดโครงการได้ยาก
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการลงทุนโรงกลั่นและปิโตรเคมีครบวงจรในประเทศเวียดนามว่า จากราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วมาอยู่ที่ระดับ 50-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ต้องว่าจ้างที่บริษัทปรึกษาเพื่อประเมินความเป็นไปได้ของโครงการใหม่อีกครั้งให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน คาดว่าจะใช้เวลาศึกษารายละเอียดและได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้
“ปตท.ได้หารือกับซาอุดิอารัมโกที่จะเดินหน้าโครงการดังกล่าวไปก่อน โดยจะศึกษาความเป็นไปได้โครงการใหม่อีกครั้งหลังจากสถานการณ์ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย เชื่อว่ามูลค่าโครงการจะลดลง เนื่องจากค่าก่อสร้างมีแนวโน้มลดลง คาดว่าปลายปีนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็รอการตัดสินใจของพันธมิตรท้องถิ่นที่จะเข้ามาร่วมทุนด้วย”
ส่วนกรณีที่เวียดนามเตรียมประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับการลงทุนใหม่ ซึ่งเดิมบริษัทฯ กังวลว่ากฎหมายใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อโครงการโรงกลั่นและปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ของ ปตท.เมื่อเทียบกับกฎหมายเดิมนั้น ล่าสุดจากการศึกษาพบว่ากฎหมายใหม่ไม่ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างไรต่อโครงการดังกล่าว
ส่วนการหาพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อร่วมในโครงการนี้ยังอยู่ระหว่างการสรรหาอยู่ แม้ว่าปัจจุบันจะมีการดึงซาอุดิอารัมโก ยักษ์ใหญ่วงการน้ำมันของโลกเข้ามาร่วมทุนในโครงการดังกล่าวแล้วก็ตาม แต่เพื่อลดความเสี่ยงจำเป็นต้องมีพันธมิตรท้องถิ่นเข้าร่วมทุนโดยจะต้องเป็นรัฐวิสาหกิจหรือเป็นหน่วยงานของรัฐเข้ามาร่วมถือหุ้นด้วย เนื่องจากบริษัทเอกชนเวียดนามที่มีศักยภาพมากพอที่จะเข้ามาร่วมถือหุ้นโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้มีน้อยมากเพราะต้องใช้เงินทุนสูงมาก
ทั้งนี้ คงต้องขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐประเทศเวียดนามว่าจะสนับสนุนการลงทุนโครงการดังกล่าวให้เกิดขึ้นในประเทศหรือไม่ โดยยอมรับว่าเป็นเรื่องยากและมีความเสี่ยงเกินไปที่จะเกิดการลงทุนขนาดใหญ่เช่นนี้โดยไม่มีภาครัฐเข้ามาร่วมถือหุ้นด้วย ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้เกิดโครงการนี้หรือไม่เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นต่อสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ แม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลเวียดนามจะเห็นชอบในหลักการโครงการดังกล่าวแล้วก็ตาม
โครงการโรงกลั่นและปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่ประเทศเวียดนามคาดว่าจะใช้เงินลงทุน2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงิน 7 แสนกว่าล้านบาท โดยจะมีโรงกลั่นน้ำมันขนาด 4 แสนบาร์เรล/วัน นำผลพลอยได้จากโรงกลั่นมาต่อยอดธุรกิจปิโตรเคมีขนาด 5 ล้านตัน/ปี ตั้งอยู่ในบริเวณเขตเศรษฐกิจ Nhon Hoi จังหวัดบินห์ดินห์ โดยกลุ่ม ปตท.จะถือหุ้น 40% เท่ากับซาอุดิอารัมโก ส่วนเวียดนามจะถือหุ้น 20%