กฟผ.เร่งดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีโรงไฟฟ้าแม่เมาะ สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้เร็วกว่าที่ศาลกำหนด 60 วัน โดยจะนำแคชเชียร์เช็คกว่า 49 ล้านบาทไปวางที่สำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่ในวันที่ 13 มีนาคมนี้
นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาในคดีโรงไฟฟ้าแม่เมาะให้ กฟผ.จ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ฟ้องคดีโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 123 ราย และให้ชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้น โดยให้ กฟผ.ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา ซึ่งภายหลังรับทราบคำพิพากษา กฟผ.ได้เร่งดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล โดยขอให้สำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่ คำนวณค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ย เนื่องจากผู้ฟ้องคดีแต่ละรายได้รับค่าสินไหมทดแทนแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ได้เข้ามาอาศัยในพื้นที่ และจะสามารถจ่ายเงินได้ในวันที่ 13 มีนาคมนี้
ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าวต่อไปว่า จากการคำนวณค่าสินไหมทดแทนของสำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่สรุปเป็นเงินต้นจำนวน 26,432,400 บาท และดอกเบี้ยจนถึงวันชำระ คือวันที่ 13 มีนาคม 2558 จำนวน 22,998,887.62 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 49,431,287.62 บาท โดย กฟผ.จะนำแคชเชียร์เช็คไปวางต่อสำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่ในวันที่ 13 มีนาคม 2558 จากนั้นสำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่จะแจ้งให้ผู้ฟ้องคดีมารับค่าสินไหมทดแทนต่อไป
ทั้งนี้ ค่าสินไหมทดแทนคำนวณตามคำสั่งศาลนี้เป็นค่าทดแทนในกรณีที่ กฟผ.ปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นบางครั้ง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2535 ถึงเดือนสิงหาคม 2541 โดยตั้งแต่เกิดปัญหาขึ้น กฟผ.ได้ติดตั้งระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และมลภาวะอื่นๆ รวมทั้งระบบตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมต่างๆ ครบถ้วนแล้ว และศาลฯ ชี้ว่า ตั้งแต่กันยายน 2541 ถึงปัจจุบัน กฟผ.ไม่มีการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์เกินค่ามาตรฐานอีก เช่นเดียวกับปัญหาฝุ่นละอองที่อยู่ในการฟ้องร้องด้วยนั้น ศาลฯ มีความเห็นว่า โรงไฟฟ้าแม่เมาะไม่เป็นสาเหตุแห่งการเจ็บป่วย จึงอยากให้ราษฎรแม่เมาะและประชาชนมั่นใจว่าคุณภาพสิ่งแวดล้อมของโรงไฟฟ้าแม่เมาะปลอดภัยต่อชุมชน
“ขอขอบคุณสำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ช่วยให้ กฟผ. จ่ายค่าสินไหมทดแทนได้อย่างรวดเร็วกว่ากำหนด และแม้ว่าเรื่องของคดีจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่การพัฒนาเทคโนโลยีและการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการพัฒนาชุมชนด้านต่างๆ จะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและดูแลชาวแม่เมาะต่อไปให้ดีที่สุด” ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าว