xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” เตรียมชง นบข.เคาะแผนช่วยนาปรัง ดึงโรงสีร่วมโครงการซื้อข้าวเก็บสต๊อก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” ชง นบข.ไฟเขียวมาตรการดูแลราคาข้าวเปลือกนาปรังปี 58 ดึงโรงสีเข้าร่วมโครงการเก็บสต๊อกข้าวเปลือก โดยรัฐชดเชยดอกเบี้ยให้ คาดดึงปริมาณผลผลิตเข้าเก็บได้ 2-3 ล้านตัน จากผลผลิตรวม 6.8 ล้านตัน มั่นใจดันให้ราคาเกินตันละ 8 พันบาทได้แน่

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) จะเสนอมาตรการในการดูแลข้าวเปลือกนาปรังปี 2558 ที่กำลังทยอยออกมาตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นไป ให้ นบข.พิจารณา โดยส่วนใหญ่เป็นมาตรการที่เคยใช้ในการดูแลราคาข้าวเปลือกนาปี 2557/58 มาแล้ว แต่จะมีการนำจุดบกพร่องจากการใช้มาตรการครั้งที่แล้วมาปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีเป้าหมายที่จะดูแลราคาข้าวเปลือกนาปรังให้อยู่ระดับราคา 8,000-8,500 บาท/ตัน ตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด

สำหรับมาตรการที่จะนำมาใช้ดูแลข้าวเปลือกนาปรังปี 2558 จะใช้โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้โรงสี 3% เพื่อให้มีการเก็บสต๊อกข้าวเปลือกล่วงหน้า โดยจะปรับระยะเวลาในการเก็บสต๊อกไม่เกิน 3-4 เดือน ลดลงจากโครงการเดิมที่ใช้ในฤดูกาลข้าวเปลือกนาปี 2557/58 ที่ให้โรงสีที่เข้าร่วมโครงการต้องเก็บสต๊อกข้าวเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยขณะนี้มีโรงสีที่สมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว 140 แห่ง สามารถรองรับการเก็บสต๊อกข้าวได้ประมาณ 2-3 ล้านตัน หรือสัดส่วน 30-40% ของผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังที่กำลังทยอยออกสู่ตลาดฤดูกาลนี้ประมาณ 6.8 ล้านตันข้าวเปลือก

ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ จะนำงบเดิมที่เหลืออยู่จากการได้รับอนุมัติในช่วงฤดูกาลข้าวนาปี 2557/58 มาใช้ต่อ แต่หากไม่เพียงพอก็จะขออนุมัติงบเพิ่มเติม คาดว่าจะของบประมาณหลักร้อยล้านบาทเท่านั้น โดยกำหนดโครงการเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2558 โดยเมื่อ นบข.อนุมัติก็จะมีผลย้อนหลังให้

“เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยรักษาระดับราคาข้าวเปลือกนาปรังให้อยู่ในราคาตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดได้อย่างต่อเนื่อง โดยราคาข้าวเปลือกเจ้าปัจจุบันขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 8,000-8,200 บาท/ตัน” นายบุญยฤทธิ์กล่าว

แหล่งข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทยกล่าวว่า กรมการค้าภายในได้จัดทำโครงการส่งเสริมให้โรงสีรับซื้อข้าวเปลือกเก็บสต๊อกเพื่อนำไปผลิตข้าวนึ่ง โดยโรงสีที่มีความต้องการเข้าร่วมโครงการสามารถสมัครได้ที่ธนาคารพาณิชย์ที่โรงสีเป็นลูกค้าอยู่ และรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรไปเก็บเป็นระยะเวลา 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยให้ธนาคารอัตรา 3% คาดว่าจะมีเป้าหมายเก็บข้าวเปลือกได้ถึง 2 ล้านตันข้าวเปลือก ใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ส่งออกมีความกังวลว่าเมื่อลดการเพาะปลูกนาปรังปีนี้จะทำให้ข้าวเปลือกที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตข้าวนึ่งขาดแคลน จึงได้ปรับปรุงโครงการนี้มาใช้อีกครั้ง จากที่เคยทำในฤดูการผลิตนาปีแต่ไม่ประสบความสำเร็จ มีโรงสีเข้าร่วมน้อย รอบนี้จึงจูงใจให้เก็บสต๊อกเป็นข้าวเปลือก เพื่อให้โรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการสามารถนำไปขายเพื่อทำข้าวนึ่ง ถือว่าใช้เงินไม่มาก แต่ช่วยยกระดับราคาได้


กำลังโหลดความคิดเห็น