นายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “ซีพี ออลล์” ได้เปิดธุรกิจใหม่ซึ่งเป็นการพัฒนาการทำธุรกิจจากหน่วยงาน “เซเว่นแคตตาล็อก” มาเป็นการบริหารจัดการในรูปแบบบริษัทภายใต้ชื่อ “บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด” เพื่อให้บริการสั่งจองและจัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางที่หลากหลาย (Omni Channel) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557
ปัจจุบัน “ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง” มีจำนวนลูกค้า 1.7 ล้านราย คิดเป็นอัตราเติบโต 7% ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง 70% ส่งผลให้ปี 2557 มียอดขาย 3.4 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 25% แบ่งเป็นยอดขายจากลูกค้าในกรุงเทพฯ 44% และต่างจังหวัด 56% ส่วนในปี 2558 ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมประมาณ 4.7 พันล้านบาท หรือเติบโตกว่า 34% เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่ขยายตัวมากขึ้น และมีคู่ค้าที่มีสินค้าเข้ามาร่วมจำหน่ายกับบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้นถึง 5.5 หมื่นราย จากเดิมที่มีเพียง 3 หมื่นราย โดยคาดว่าในปี 2558 จะมียอดขายเติบโตเฉลี่ย 30% หรือมียอดขายรวมถึง 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2560
สำหรับสัดส่วนยอดขายของบริษัทฯ มาจากร้านเซเว่น อีเลฟเว่น 70% โดยมีลูกค้าเข้าใช้บริการเฉลี่ยกว่า 10 ล้านคนต่อวัน ส่วนอีก 15-20% มาจากนิตยสาร และอีก 10-15% เป็นช่องทางออนไลน์และเว็บไซต์ โดยคาดว่าภายใน 3 ปีจะเติบโตเพิ่มขึ้นและทำรายได้ถึง 1 พันล้านบาทจากปัจจุบันที่ยังมีเพียง 100 ล้านบาท
โดยล่าสุดได้เปิดตัวเว็บไซต์ขายสินค้า www.taiwang.com เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าชาวจีนโดยตรง โดยบริษัทฯ จะใช้งบประมาณการตลาด 8-9% ของยอดขายในการจัดรายการส่งเสริมการขายและโปรโมชันต่างๆ รวมถึงเพิ่มจำนวนสินค้าให้มีความหลากหลายและครอบคลุมความต้องการมากขึ้น
“บริษัทฯ ยังมีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจ SMEs ด้วยการเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้า ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs นำสินค้ามาจำหน่ายผ่านนิตยสาร 7-Catalog มากกว่า 100 ราย พร้อมทั้งยังได้วางแผนงานเพื่อรองรับการขยายงานและการเติบโตด้วยการพัฒนาการจัดส่งในรูปแบบของ “สโตร์ฮับ” คือ การให้ผู้ประกอบการสามารถนำสินค้ามาเก็บไว้ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อพักสินค้าชั่วคราวก่อนที่รถขนส่งจากศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางของ 7-Catalog จะมารับเพื่อไปส่งต่ออีกทอดหนึ่ง”
นายอำพากล่าวด้วยว่า ในปี 2558 บริษัทฯ มีแผนลงทุนทางด้านไอทีและเทคโนโลยีต่างๆ จากประเทศเยอรมนี ด้วยมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อเชื่อมโยงการให้บริการสั่งจองสินค้าในทุกช่องทางให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีความสะดวกราบรื่น รวมถึงพัฒนาระบบกระจายสินค้าและจัดส่งให้ถึงมือลูกค้าให้ตรงเวลาด้วยความรวดเร็วและปราศจากข้อผิดพลาด หรือความเสียหายใดๆ ทั้งยังจะเพิ่มการจัดส่งสินค้าจากเดิมที่ยังคงมีเพียงวันละ 1 ครั้ง
นายอำพากล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของนิตยสาร 7-Catalog เป็นนิตยสารราย 2 เดือน มียอดพิมพ์ 4 แสนฉบับ แจกฟรีให้สมาชิกจำนวน 2 แสนฉบับ และจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ราคาเล่มละ 10 บาท จำนวน 2 แสนฉบับ ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 1.7-1.8 ล้านคน คาดว่าจะเพิ่มอีกประมาณ 1.5-2 แสนคนในปี 2558 โดยเป็นสมาชิกใหม่จากการซื้อนิตยสารประมาณ 3 หมื่นคนต่อฉบับ
“บริษัทฯ แบ่งระดับลูกค้าในส่วนของนิตยสาร 6 ส่วน โดยพิจารณาจากการซื้อหลังได้รับนิตยสาร โดยระดับที่ 1 จะมีการตอบรับ 50% ระดับที่ 2 ประมาณ 30% ระดับที่ 3 ประมาณ 20% ระดับที่ 4 ประมาณ 10% ส่วนที่เหลือเป็นระดับที่ 5-6 โดยแต่ละคนมีกำลังซื้อประมาณ 700-800 บาทต่อครั้ง โดยแต่ละฉบับจะมีการคงสินค้าที่จำหน่ายดีประมาณ 60% และหมุนเวียนสินค้าใหม่ 40%”
นายอำพากล่าวอีกว่า สำหรับการจำหน่ายผ่านเว็บไซต์มีการกำหนดอย่างชัดเจน คือ www.7catalog.com เป็นการจำหน่ายในรูปแบบเดียวกันกับนิตยสาร ขณะที่ www.shopat7.com มีสินค้าที่หลากหลายและครอบคลุมความต้องการลูกค้ามากกว่า ส่วน www.amuletat7.com เน้นการจำหน่ายวัตถุมงคลและเผยแพร่โครงการบุญกุศลต่างๆ โดยแต่ละคนมีกำลังซื้อประมาณ 2-3 พันบาทต่อครั้ง เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่มีมูลค่าสูง เช่น สินค้าไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น