xs
xsm
sm
md
lg

7-Catalog ฟัน 4 พันล้าน ทุ่ม 200 ล้านพัฒนาระบบไอที

เผยแพร่:

ASTVผู้จัดการรายวัน - “ซีพี ออลล์” แตกบริษัทลูก “ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง” ให้บริการสั่งจองและจำหน่ายสินค้าผ่าน 3 ช่องทาง ฟุ้งยอดขายปี 57 โต 24% ทะลุ 4 พันล้านบาท เดินหน้าพัฒนาระบบไอทีจากเยอรมนี หวังเชื่อมโยงบริการและการกระจายสินค้ามากกว่า 1 ครั้งต่อวัน คาดปี 58 ยอดขายเพิ่ม 25-30% พร้อมสมาชิกร่วม 2 ล้านคน

นายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “ซีพี ออลล์” ได้เปิดธุรกิจใหม่ซึ่งเป็นการพัฒนาการทำธุรกิจจากหน่วยงาน “เซเว่นแคตตาล็อก” มาเป็นการบริหารจัดการในรูปแบบบริษัทภายใต้ชื่อ “บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด” เพื่อให้บริการสั่งจองและจัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางที่หลากหลาย (Omni Channel) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557

สำหรับช่องทางให้บริการสั่งจองและจัดจำหน่ายสินค้าดังกล่าวประกอบด้วย 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. On Ground เป็นการจำหน่ายสินค้าประมาณ 80-120 เอสเคยูในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั้ง 8.1 พันสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งจำหน่ายผ่านนิตยสาร 7-Catalog กว่า 2 พันรายการ 2. Online เป็นการจำหน่ายสินค้ากว่า 1 หมื่นรายการผ่าน 3 เว็บไซต์ คือ www.7catalog.com, www.shopat7.com และ www.amuletat7.com 3. On Air เป็นการจำหน่ายสินค้าผ่านเคเบิลทีวีทาง true visions ช่อง 10 โดยยังมีบริการ Call Center โทร. 0-2711-7666 สำหรับการสั่งจองสินค้าทุกช่องทางด้วย

“บริษัทฯ ยังมีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจ SMEs ด้วยการเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้า ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs นำสินค้ามาจำหน่ายผ่านนิตยสาร 7-Catalog มากกว่า 100 ราย พร้อมทั้งยังได้วางแผนงานเพื่อรองรับการขยายงานและการเติบโตด้วยการพัฒนาการจัดส่งในรูปแบบของ “สโตร์ฮับ” คือ การให้ผู้ประกอบการสามารถนำสินค้ามาเก็บไว้ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อพักสินค้าชั่วคราวก่อนที่รถขนส่งจากศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางของ 7-Catalog จะมารับเพื่อไปส่งต่ออีกทอดหนึ่ง”

นายอำพากล่าวด้วยว่า ในปี 2558 บริษัทฯ มีแผนลงทุนทางด้านไอทีและเทคโนโลยีต่างๆ จากประเทศเยอรมนี ด้วยมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อเชื่อมโยงการให้บริการสั่งจองสินค้าในทุกช่องทางให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีความสะดวกราบรื่น รวมถึงพัฒนาระบบกระจายสินค้าและจัดส่งให้ถึงมือลูกค้าให้ตรงเวลาด้วยความรวดเร็วและปราศจากข้อผิดพลาด หรือความเสียหายใดๆ ทั้งยังจะเพิ่มการจัดส่งสินค้าจากเดิมที่ยังคงมีเพียงวันละ 1 ครั้ง

“สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทฯ มียอดขายประมาณ 4 พันล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 24% โดยคาดว่าในปี 2558 จะเติบโตขึ้นประมาณ 25-30% เนื่องจากเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการสั่งซื้อและรับสินค้า โดยบริษัทฯ จะใช้งบประมาณการตลาด 8-9% ของยอดขายในการจัดรายการส่งเสริมการขายและโปรโมชันต่างๆ รวมถึงเพิ่มจำนวนสินค้าให้มีความหลากหลายและครอบคลุมความต้องการมากขึ้น”

นายอำพากล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของนิตยสาร 7-Catalog เป็นนิตยสารราย 2 เดือน มียอดพิมพ์ 4 แสนฉบับ แจกฟรีให้สมาชิกจำนวน 2 แสนฉบับ และจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ราคาเล่มละ 10 บาท จำนวน 2 แสนฉบับ ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 1.7-1.8 ล้านคน คาดว่าจะเพิ่มอีกประมาณ 1.5-2 แสนคนในปี 2558 โดยเป็นสมาชิกใหม่จากการซื้อนิตยสารประมาณ 3 หมื่นคนต่อฉบับ

“บริษัทฯ แบ่งระดับลูกค้าในส่วนของนิตยสาร 6 ส่วน โดยพิจารณาจากการซื้อหลังได้รับนิตยสาร โดยระดับที่ 1 จะมีการตอบรับ 50% ระดับที่ 2 ประมาณ 30% ระดับที่ 3 ประมาณ 20% ระดับที่ 4 ประมาณ 10% ส่วนที่เหลือเป็นระดับที่ 5-6 โดยแต่ละคนมีกำลังซื้อประมาณ 700-800 บาทต่อครั้ง โดยแต่ละฉบับจะมีการคงสินค้าที่จำหน่ายดีประมาณ 60% และหมุนเวียนสินค้าใหม่ 40%”

นายอำพากล่าวอีกว่า สำหรับการจำหน่ายผ่านเว็บไซต์มีการกำหนดอย่างชัดเจน คือ www.7catalog.com เป็นการจำหน่ายในรูปแบบเดียวกันกับนิตยสาร ขณะที่ www.shopat7.com มีสินค้าที่หลากหลายและครอบคลุมความต้องการลูกค้ามากกว่า ส่วน www.amuletat7.com เน้นการจำหน่ายวัตถุมงคลและเผยแพร่โครงการบุญกุศลต่างๆ โดยแต่ละคนมีกำลังซื้อประมาณ 2-3 พันบาทต่อครั้ง เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่มีมูลค่าสูง เช่น สินค้าไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น




กำลังโหลดความคิดเห็น