กกร.ถกวันที่ 3 มี.ค.เตรียมหั่นเป้าส่งออกจากที่คาดการณ์ไว้ 3.5% แนวโน้มเหลือไม่เกิน 2.5% หลังตลาดหลักและตลาดรองหดตัวหนักทั้งจีน ญี่ปุ่น ยุโรป รัสเซีย ประเมินไตรมาส 1 ส่งออกส่อติดลบ 2%
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค.) จะมีการหารือถึงแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2558 โดยเฉพาะการส่งออกที่คาดว่าจะมีการปรับเป้าหมายใหม่ จากเดิมที่ กกร.เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 3.5% ซึ่งอาจจะลดลงเหลือขยายตัวไม่เกิน 2.5%
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากการส่งออกของไทยเดือน ม.ค. 58 ติดลบ 3.46% โดยสิ่งที่เป็นสัญญาณไม่สู้ดีนักพบว่าในเดือน ม.ค.นี้ตลาดหลักและตลาดรองมีทิศทางการส่งออกลดลงอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ จีนลดลง 19.69% ญี่ปุ่นลดลง 7.8% และสหภาพยุโรปลดลง 5% ขณะที่ตลาดรอง เช่น รัสเซียก็ลดลงเช่นกัน โดยตลาดที่เติบโตตลาดหลักมีเพียงสหรัฐอเมริกาและการค้าชายแดน โดยปัจจัยสำคัญมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แข็งค่าส่งผลให้การส่งออกไทยถดถอย
“ภาพรวมจึงคาดการณ์ว่าการส่งออกไทยไตรมาสแรกปีนี้จะติดลบ 2% ดังนั้นมีแนวโน้มว่า กกร.จะลดเป้าส่งออกที่เดิมมองไว้ที่ 3.5% ลดลงเหลือ 2.5% แต่ส่วนตัวแล้วส่งออกปีนี้คงโตไม่เกิน 1.1-1.5% หากปัญหาค่าเงินยูโรยังคงอ่อนค่าทำให้ไทยถูกต่อรองราคาสินค้าการส่งออกตลาดนี้คาดว่าจะหายไปพอสมควร” นายวัลลภกล่าว
สำหรับการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีนั้นเดิม กกร.มองไว้โตที่ระดับ 3.5% ภาพรวมอาจจะยังคงระดับนี้ไว้ เพราะยังคาดหวังว่ารัฐบาลจะเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณออกมาได้หลังไตรมาส 1 ไปแล้ว รวมถึงการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มจะเติบโต อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องติดตามคือการบริโภคภายในประเทศหากฟื้นตัวขึ้นมากกว่าปัจจุบันก็จะช่วยให้การเติบโตของจีดีพีขยายตัวได้มากขึ้น