“กกร.” วิตกค่าเงินบาทแข็งค่าฉุดขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการส่งออกของไทย สมาคมธนาคารไทยออกโรงเตือนเตรียมรับมือภาวะความผันผวนต่อเนื่องหลังอียูออกมาตรการ QE สหรัฐฯ จ่อขยับดอกเบี้ย ด้านสภาหอการค้าฯ เตรียมตบเท้าหารือ ธปท. 11 ม.ค.นี้
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร.มีความเห็นตรงกันถึงความเป็นห่วงภาวะอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าในปัจจุบัน โดยเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านที่พบว่าไทยมีการแข็งค่ามากกว่าซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกของไทยในปี 2558 ได้ อย่างไรก็ตาม กกร.ยังไม่มีการปรับเป้าหมายการส่งออกที่มองไว้ 3.5-4% โดยจะขอติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกอีกระยะหนึ่งก่อน
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า มีความกังวลค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งทางการค้า ซึ่งเห็นว่าจำเป็นจะต้องเตรียมตัวรับมือกับความผันผวนของค่าเงินที่จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะภาคการค้าที่จะต้องลำบากมากขึ้นและจะต้องติดตามใกล้ชิดหลังจากที่ธนาคารกลางแห่งยุโรป (ECB) ได้ดำเนินนโยบายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE สิ่งที่ต้องติดตามต่อมาคือระดับราคาน้ำมันเริ่มเพิ่มขึ้น ขณะที่สหรัฐอเมริกาอาจพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยตามมาปลายปี สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งความผันผวนของค่าเงิน การค้าจะมีปัญหาในการกำหนดราคา
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาพรวมค่าเงินบาทของไทยในช่วงที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีอัตราแข็งค่ามากกว่าประเทศคู่แข่งทางการค้าหรือเพื่อนบ้านใกล้เคียง ซึ่งมีความกังวลต่อปัญหาดังกล่าวว่าสินค้าส่งออกของไทยจะขายยากขึ้น ขีดความสามารถทางการแข่งขันจะลดลง ดังนั้นวันที่ 11 ก.พ.นี้สภาหอการค้าไทยจะเข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อที่จะหารือถึงภาพรวมเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและแนวทางการดำเนินนโยบายของ ธปท.